posttoday

ชาติไทยพัฒนาขอ4รมต.แกนนำพลังประชารัฐวางตัวเป็นกลาง อย่าเอาเปรียบพรรคอื่น

08 ตุลาคม 2561

ชาติไทยพัฒนาเมิน 4 รัฐมนตรีแกนนำพลังประชารัฐจะอยู่หรือไป แต่ถ้าอยู่ต่อต้องวางตัวเป็นกลาง

ชาติไทยพัฒนาเมิน 4 รัฐมนตรีแกนนำพลังประชารัฐจะอยู่หรือไป แต่ถ้าอยู่ต่อต้องวางตัวเป็นกลาง

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกระแสข่าว 4 รัฐมนตรีที่เป็นแกนนำก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จะลาออกจากตำแหน่งเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค.ว่า หากจะว่ากันตามกฏหมายแล้วในกฎหมายก็ชี้ชัดแล้วว่าไม่จำเป็นต้องลาออก และถ้าลาออกในช่วงนี้แล้วมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็จะเหลือเวลาเพียงสามเดือนดังนั้นหากมีการปรับครม. รัฐมนตรีใหม่ที่เข้ามาจะมีเวลาทำงานเพียงสามเดือนเท่านั้นคงไม่สามารถสานต่องานใดได้ ก็คงจะขาดตอน ดังนั้น หากเป็นเช่นนั้นคิดว่าหากพูดถึงความต่อเนื่องของงานถ้าอยู่ทำงานต่อไปคงจะเหมาะสมกว่า

นายวราวุธ กล่าวว่า แต่ถ้าพูดถึงประเด็นความเหมาะสมว่าเหมาะสมหรือไม่คนที่ทำงาน เป็นถึงระดับเสนาบดีก็ควรจะใช้วิจารณญาณในการทำงานและขอให้วางตัวเป็นกลางให้มากที่สุด ขอให้คิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติในการทำงานในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม เป็นสิ่งสำคัญมากกว่า

เมื่อถามว่ากลัวว่าพรรคการเมืองของรัฐบาลจะเอาเปรียบพรรคการเมืองหรือ ไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คงต้องขอให้ใช้วิจารณญาณในการทำงาน แต่ที่ผ่านมาไม่ว่ากี่สมัยเราก็เห็นเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น

เมื่อถามว่าแต่มีเสียงวิจารณ์ว่าขอให้มีมารยาททางการเมืองกันด้วย นายวราวุธ กล่าวว่า แต่ละสมัยที่ผ่านมาก็เห็นรัฐบาลรักษาการยังทำงานต่อเนื่องจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ เพื่อให้งานต่อเนื่องกันไปได้ และ การทำงานของประเทศไม่หยุดหรือสะดุดลง แต่ก็อย่ามาจ้องเอารัดเอาเปรียบกัน เพราะเหลือเวลาอีกไม่นาน

นายวราวุธ กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองใหม่ๆ พยายามเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักของประชาชนมากขึ้นในช่วงนี้ ว่า ถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีผู้ให้ความสนใจกับการเมืองมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการเป็นพรรคการเมืองใหม่ในช่วงนี้ซึ่งเป็นภายใต้กรอบกฎหมายนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ การตั้งพรรคหรือการดำรงคงอยู่ของพรรคการเมืองมีกลไกซับซ้อนมากกว่าที่ผ่านมาอย่างมาก ทั้งเรื่องสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ทำให้จะต้องมีฐานสมาชิกอยู่อย่างมหาศาล เช่น หากพรรคใดต้องการส่งผู้สมัครให้ครบ 350 เขตต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 40,000 คนซึ่งในปัจจุบันพรรคการเมืองที่มีสมาชิกมากถึงขนาดนั้นก็มีเพียงสองพรรคใหญ่เท่านั้นในขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ การจะหาสมาชิกได้ขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นคงต้องให้กำลังใจกันต่อไป