"ธนาธร"ขอเป็นนายกฯ ล้มล้างมรดกคสช.

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ขอเป็นนายกฯเพื่อทำ3เป้าหมายให้สำเร็จคือ 1.หยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. 2.แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และ 3.ล้มล้างมรดกคณะรัฐประหาร

************************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

นับเป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองน้องใหม่น่าจับตา สำหรับ “อนาคตใหม่” ที่ได้เปิดที่ทำการพรรค ชั้น 5 ตึกไทยซัมมิท ถนนเพชรบุรี เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันแรก ให้กับผู้สนใจแนวทางการทำงานการเมืองสมัครเข้าเป็นสมาชิกโดยมี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ให้การต้อนรับ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ ธนาธร ระบุว่า ตนเองไม่เคยพูดถึงการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขอย้ำอีกครั้งว่า การประกาศปักธงการเมืองกับเรื่องคะแนนเสียงเป็นเรื่องเดียวกัน

“เราไม่ได้มองแค่อำนาจ แต่มีเป้าหมาย 3 ข้อ คือ 1.หยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. 2.แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และ 3.ล้มล้างมรดกคณะรัฐประหาร ผมต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น จึงทำได้ เราไม่ได้ฝันอยากมีอำนาจเพื่อมีอำนาจ แต่อยากมีอำนาจเพื่อเอาอำนาจนั้นไปเปลี่ยนแปลงสังคม” ธนาธร กล่าว

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีไม่ใช่เป้าหมายแต่เป็นกระบวนการ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 2562 เป็นต้นไป อนาคตใหม่จะเปิดรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่มีเงื่อนไขต้องใช้เสียง สว.แต่งตั้ง 1 ใน 3 ในการเห็นชอบด้วย เพราะหลังการเลือกตั้งแล้ว องค์กรที่เรียกว่า คสช.จะหายไป ถ้าประชาชนลุกขึ้นมาเป็นล้านคนได้ การกดดันให้ สว.แต่งตั้งเห็นพ้องกับประชาชน ต้องยกมือเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็เป็นไปได้ คะแนนเสียงอย่างเดียวทำไม่ได้ ต้องทำให้อุดมการณ์คู่ไปกับการหาคะแนนเสียง

ธนาธร ระบุต่อว่า ตลอด 86 ปีของการสร้างประชาธิปไตย ตระหนักดีว่ายังทำไม่สำเร็จในอนาคตอันใกล้ พรรคอนาคตใหม่จึงขอทำงานระยะยาว ครั้งนี้ยังไม่ได้ ก็จะทำงานต่อไป ใครไม่ได้เข้าไปทำงานในสภา ก็ทำงานต่อเนื่องนอกสภา ผลักดันอุดมการณ์แนวคิดไป ทำความเข้าใจประชาธิปไตยนอกสภา

“พูดอย่างเดียวคนไม่เชื่อ ต้องทำให้เขาเห็น อย่างการเปิดเผยบัญชีเข้าพรรคการเมืองให้สาธารณะตรวจสอบได้ เราจะทำทุกไตรมาส ครั้งแรก คือ ไตรมาส 4 ของปีนี้ จะเปิดเผยได้ราวครึ่งหลังของเดือน ม.ค. 2562 ให้สังคมได้รับรู้ ถ้าผมทำได้พรรคเดียว ทุกพรรคจะทำตาม ผมจะยกระดับการเมืองไทย” ธนาธร ระบุ

ขณะเดียวกันมีผู้ที่มีชื่อเสียงที่เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่กันอย่างคึกคัก อาทิ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ นักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่ แคทลีน มาลีนนท์ บุตรสาวของ ประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ นอกจากนี้ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พาเพื่อนมาสมัครสมาชิกพรรคด้วย

ชาญวิทย์ กล่าวว่า การสมัครสมาชิก เพราะอยากช่วยลูกศิษย์ แต่แก่เกินไปที่จะลงสมัครฯ คงไม่ได้ช่วยอะไร และหากมองรวมๆ รัฐธรรมนูญแบบนี้ พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อสนับสนุนให้คณะทหารอยู่ต่อไปคิดว่ายากมาก

“ผมสอนประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก็มองย้อนกลับไปเหมือนพรรคเสรีมนังคศิลา สมัยจอมพล ป. พรรคสหประชาไทยสมัยจอมพลถนอม ก็จะไม่ประสบความสำเร็จ” ชาญวิทย์ ระบุ