posttoday

"ชาญวิทย์"ซบอนาคตใหม่ การันตี "ธนาธร" พร้อม-ไม่ไร้เดียงสา

06 ตุลาคม 2561

"ชาญวิทย์ เกษตรศิริ" สมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ชู ประวัติศาสตร์ยุคจอมพลป.-ถนอม ชี้้ พรรคทหารไปไม่รอด พปชร. เข็นไม่ขึ้น การันตี "ธนาธร" พร้อม ไม่ไร้เดียงสา

"ชาญวิทย์ เกษตรศิริ" สมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่  ชู ประวัติศาสตร์ยุคจอมพลป.-ถนอม ชี้้ พรรคทหารไปไม่รอด พปชร. เข็นไม่ขึ้น  การันตี "ธนาธร" พร้อม ไม่ไร้เดียงสา  

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่อาคารไทยซัมมิท นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ เดินทางสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงการสมัครสมาชิก ว่า ง่ายๆตรงๆคือ อยากช่วยลูกศิษย์ แต่แก่เกินไปที่จะลงสมัครฯ คงไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าหากขอปรึกษาก็คงได้ ตนอายุมากแล้ว ขอหาความสุขใส่ตัว ความพิเศษของพรรคนี้คือ ทั้งนายธนาธร กับนายปิยบุตร ชัดเจนดี ไม่ต้องอ้อมค้อมคิดมาก แง่หนึ่งถูกใจตน แม้จะเป็นคนรุ่นเก่าแล้ว แต่ตนรำคาญความยืดยาด ไม่ชัดเจน พรรคการเมืองที่ผ่านมา คนรุ่นเดือนตุลาฯ เหมือนเวลาจะวิ่งเลยเขาไปไม่ทันโลก พรรคนี้ตนรู้จักปิยบุตรโดยส่วนตัวเป็นลูกศิษย์ ดึงไปช่วยบรรยาย เป็นคนรุ่นใหม่ชัดเจน ส่วนการเมืองในอนาคตนั้น ทำนายยากเป็นบ้าเลย หากมองรวมๆ รัฐธรรมนูญแบบนี้ พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อสนับสนุนให้คณะทหารอยู่ต่อไปผมว่ายากมาก ตนสอนประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก็มองย้อนกลับไปเหมือนพรรคเสรีมนังคศิลา สมัยจอมพลป. พรรคสหประชาไทยสมัยจอมพลถนอม ก็จะไม่ประสบความสำเร็จ

"มาถึงช่วงใกล้ตัวเราประวัติศาสตร์การเมือไทยบอกว่า คนที่เป็นตัวแทนของระบอบบราชการทหาร ตำรวจ ตุลาการ และพลเรือน จะไม่ประสบความสำเร็จในการเล่นการเมืองประชาธิปไตยที่เกี่ยวกับประชาชนเป็นส่วนใหญ่ เพราะคนพวกนี้เคยชินกับการเป็นเจ้าคนนายคน พูดกับประชาชนไม่รู้เรื่อง พรรคพลังประชารัฐพรรคของผู้มีอำนาจจะประสบสำเร็จหรือไม่นั้น ผมว่าคงไม่ง่าย จุดขายไม่ค่อยมี ดูแล้วน่าเห็นใจ ส่วนอนาคตใหม่จะได้ส.ส.จำนวนมากตั้งรัฐบาลหรือไม่ ไม่ทราบ บอกได้แต่เพียงการเลือกตั้งที่จะมีตามกำหนดเวลาเดือน ก.พ. 62 นี้ พรรคเพื่อไทยก็ยังมีน้ำหนักสูงมาก แต่จะรวมกับประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ในแง่ของการเมืองเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ไม่น่าจะง่าย ขึ้นอยู่กับว่า จะเกี้ยเซี๊ยะกันได้หรือไม่ 20 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนเลยไปแล้ว เราย่ำอยู่กับที่มานาน จนคนเข้าใจการเมือง โซเชียลมีเดียสำคัญมากต่อความเข้าใจ" นายชาญวิทย์กล่าว

นายชาญวิทย์ กล่าวอีกว่า กรณีเลือกตั้งมาเลเซีย ให้เลือกตั้งอายุ 21 ปี แต่ของไทย 18 ปี เราเลยหน้าเขาไปแล้ว ซึ่งคนรุ่นใหม่ของเขา ก็ทำให้เกิดสึนามิมาเลถล่มทลาย ตนก็ภาวนาให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะถล่มทลาย เพื่อทำให้เราเปลี่ยนผ่านไปได้ไม่เสียเลือดเสียเนื้อเหมือนที่ผ่านมา ก็ต้องฝันหวังภาวนา ถ้าเราไม่หวังก็บินไม่ได้ เราต้องการอะไรที่มากกว่าที่เคยมีมา กรณีของอนาคตใหม่ เป็นเรื่องที่ต้องทำงานหนัก ชื่อก็บอกเป็นอนาคต คงไม่ใกล้ตัวขนาดปีหน้าได้ จากอายุของนายธนาธรและนายปิยบุตร นั้น ยังมีเวลาอีกเยอะ

"ผมเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธณรมนูญทั้งฉบับ ที่ถือว่าชัดเจนมาก รัฐธรรมนูญฉบับคนแก่มันไม่สวย ส่วนอนาคตใหม่ยังต้องปรับอะไรหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจว่าฉลาดพอหรือไม่ อย่างนายปิยบุตรนั้นตนรู้จักมาก่อน แต่แปลกใจนายธนาธร ที่ไม่เคยรู้จักเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกวันนี้ ก็แปลกใจนายธนาธรเขาเตรียมตัวมาดีขนาดนี้เลยหรือ เห็นรูปเขาไปประท้วงก็ตกใจ อยู่ธรรมศาสตร์เหมือนกันไม่เคยเจอ เขาเตรียมตัวมาดีพอสมควร ไม่ไร้เดียงสากระโดดลงมา" อดีตอธิการบดีกล่าว