posttoday

กกต.แจงแนวทางจัดเลือกตั้งกากบาท1ครั้งมีผลต่อการเสนอชื่อนายกฯ

28 กันยายน 2561

กกต.ประชุมพรรคการเมืองชี้แจงแนวทางจัดการเลือกตั้งครั้งแรกหลังประกาศใช้รธน.คาดจังหวัดประกาศรับฟังความเห็นการแบ่งเขต 4-13 ต.ค.นี้

กกต.ประชุมพรรคการเมืองชี้แจงแนวทางจัดการเลือกตั้งครั้งแรกหลังประกาศใช้รธน.คาดจังหวัดประกาศรับฟังความเห็นการแบ่งเขต 4-13 ต.ค.นี้

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองและผู้ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง ครั้งที่ 3/2561 เรื่องการชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและเรื่องเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง โดยมีตัวแทนพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง ตอบรับเข้าร่วม จำนวน 59 พรรค 84 กลุ่ม รวมจำนวน 451 คน อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค

ขณะที่ พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมายพรรค พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายนิกร จำนง  ผู้อำนวยการพรรค ส่วนพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค และนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรค ด้านพรรคชาติพัฒนา นำโดย นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ นายวิเชียร ชวลิต และพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นายชำนาญ จันทร์เรือง รวมทั้ง พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าร่วมรับฟังการประชุมด้วย

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวเปิดงานพร้อมบรรยายในหัวข้อ “แนวทางการจัดการเลือกตั้งครั้งแรกภายหลัประกาศใช้รัฐธรรมนูญให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม” ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งแล้ว โดยกกต.ได้ทยอยออกระเบียบต่างๆ สำหรับการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่กำหนดให้มี สส. 500 คน สส.แบบแบ่งเขต 350 คน และสส.บัญชีรายชื่อ 150 คน ซึ่งการลงคะแนนจะใช้บัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว คือ แบบแบ่งเขต แล้วนำคะแนนไปคำนวณจำนวนสมาชิกแบบบัญชีรายชื่อ

นอกจากนี้ คะแนนดังกล่าวยังมีผลต่อการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีด้วย ถือว่ากากบาทเลือก 1 ครั้ง ส่งผลถึง 3 ด้าน คือ สส.แบ่งเขต สส.บัญชีรายชื่อ และเสนอชื่อนายกฯ ดังนั้น การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่จึงมีความท้าทายทั้งต่อคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ต่อผู้สมัคร และต่อ กกต. ทั้งนี้ การเตรียมความพร้อมของพรรคการเมืองปัจจุบันมีกลุ่มการเมืองที่ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง 119 กลุ่ม ซึ่งมีพรรคที่ผ่านการรับรองจาก กกต.แล้ว 6 พรรค และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความเห็นชอบ 2 พรรค โดยเบื้องต้นจึงมีพรรคการเมืองเก่าและใหม่ที่จดทะเบียนถูกต้องได้รับการรับรองทั้งสิ้นแล้ว 74 พรรค

สำหรับพรรคเก่ามีหลักเกณฑ์ต้องดำเนินการ คือ ต้องมีทุนประเดิม 1 ล้านบาท และต้องจัดให้มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คน ชำระค่าบำรุงไม่น้อยกว่า 500 บาท ภายใน 180 วัน ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. ในกรณีที่พรรคการเมืองดำเนินการไม่ทัน ขอขยายเวลาได้ 180 วัน จากนั้นหากทำไม่ทันให้ถือว่าพรรคนั้นสิ้นสภาพไป อย่างไรก็ตาม ในกรณีค่าบำรุงพรรคการเมือง คำสั่งคสช.ผ่อนปรนให้ชำระได้ไม่น้อยกว่า 50 บาทต่อคน ส่วนพรรคการเมืองใหม่ต้องเร่งจัดทำคำประกาศอุดมการณ์การเมืองและนโยบายพรรค ให้ครบถ้วนสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และกฎหมายพรรคการเมือง

"กฎหมายเลือกตั้ง สส. โดยขอให้หัวหน้าพรรคดำเนินการให้ครบถ้วน และต้องการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคให้ครบถ้วน แล้วเสร็จก่อน 90 วัน หรือก่อนวันที่ 10 ธ.ค.นี้ หากไม่แล้วเสร็จขอขยายเวลาได้อีก 90 วัน เมื่อสิ้นสุดเวลาที่ขอขยายแล้วแต่ยังดำเนินการไม่ทันพรรคนั้น จะไม่สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และกกต.ไม่สามารถจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองให้ได้"นายอิทธิพร กล่าว

ประธานกกต. กล่าวอีกว่า การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองจะประกอบไปด้วยกรรมการบริหารพรรค 4 คน ตัวแทนสมาชิก 7 คน พิจารณาสรรหารผู้สมัครโดยให้คำนึงถึงตัวแทนจากภูมิภาคต่างๆ โดยเสนอชื่อให้กรรมการบริหารพรรคเพื่อให้ความเห็นชอบ หากคณะกรรมการบริการพรรคเห็นชอบ ก็จะต้องออกหนังสือรับรอง เพื่อให้ผู้สมัครนำมาเป็นเอกสารในการสมัครเลือกตั้งต่อไป

สำหรับการเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งของสำนักงานกกต.นั้น ขณะนี้กกต.ได้ออกระเบียบว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง ประกาศจำนวนสส.แบบแบ่งเขต และจำนวนเขตเลือกตั้งแล้ว โดยจะแบ่งเขตต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ย.นี้ เพื่อให้พรรคการเมืองมีเวลาหาสมาชิก ทั้งนี้กกต.จังหวัดจะเสนอรูปแบบการแบ่งเขตจำนวน 3 รูปแบบ และเริ่มปิดประกาศเพื่อรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชน ในระหว่างวันที่ 4-13 ต.ค.นี้