posttoday

"บิ๊กตู่" ยิ้มรับคำเชียร์เป็นนายกฯต่อ

18 กันยายน 2561

พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมร้องเพลง "สะพาน"กับ นศ. พร้อมเปิดคลินิกหมอครอบครัวแห่งแรกของไทย ย้ำชาวเพชรบูรณ์ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตอบรับคำเชียร์ผู้สูงอายุเป็นนายกฯต่อ

พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมร้องเพลง "สะพาน"กับ นศ. พร้อมเปิดคลินิกหมอครอบครัวแห่งแรกของไทย ย้ำชาวเพชรบูรณ์ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตอบรับคำเชียร์ผู้สูงอายุเป็นนายกฯต่อ

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่ จ.เพชรบูรณ์  นักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ชั้นปีที่ 1 ร่วมร้องประสานเสียงเพลง "สะพาน" ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ร่วมร้องด้วย และชมนักศึกษาว่าร้องได้ไพเราะ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำกับนักศึกษาว่า รัฐบาลจะทำตามสัญญา จะทำหน้าที่เป็นสะพานให้ทุกคนก้าวข้าม ขับเคลื่อนประเทศโดยยุทธศาสตร์ชาติ  วางรากฐานประเทศให้ดี และขอกำลังใจจากทุกคน  ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด ขอให้เลือกสาขาเรียนที่ชื่นชอบ และมีศักยภาพ หาพรสวรรค์ในตัวเองให้เจอ วันข้างหน้า เมื่อเรียนจบไป และมีงานทำ ก็ขอให้กลับมาพัฒนาบ้านของเรา และยังถามนักศึกษาด้วยว่า  “อายุ 18 ปีหรือยัง และอย่าลืมไปเลือกตั้ง”

จากนั้น นายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข และคณะ ร่วมเปิดอาคารคลินิกหมอครอบครัว (PCC : Primary Care Cluster) รพ.เพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา  ซึ่งเป็นคลินิกหมอครอบครัวแห่งแรกของประเทศไทย ที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการ และได้รับงบประมาณอาคารตามนโยบายคลินิกหมอครอบครัว

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ปฏิรูประบบปฐมภูมิ และคลินิกหมอครอบครัว เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการปฐมภูมิ หรือบริการขั้นพื้นฐาน ที่คลินิกหมอครอบครัวใกล้บ้าน ได้รับบริการสะดวก รวดเร็ว ลดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่  โดยเฉพาะพื้นที่เขตเมือง   มีเป้าหมายดำเนินการทั้งสิ้น 110 แห่ง ซึ่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เป็น 1 ใน 16 จังหวัดพื้นที่นำร่อง ระยะแรก ในปี 2559 และเป็น 1 ใน 8 จังหวัด ที่ได้รับงบประมาณ 44 ล้านบาท สร้างอาคารคลินิกหมอครอบครัว   มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ร่วมกับทีมสหวิชาชีพทั้งหมด 3 ทีม ดูแลประชากรประมาณ 30,000 คน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงพยาบาล ก่อนจะพบปะและกล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ย้ำความจำเป็นของคลินิกครอบครัว เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นการวางอนาคตของประเทศ และว่า รัฐบาลได้ดำเนินการหลายอย่าง เมื่อเข้ามาบริหารประเทศ ทั้งเรื่องที่ดินทำกิน การบริหารจัดการน้ำ ปฏิรูปเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม และมีความพยายามในการบริหารประเทศ โดยไม่สร้างภาระให้รัฐบาลหน้า

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้บอกประชาชนว่า ตนรักทุกคน และไม่เคยโกรธใคร พร้อมย้ำความจำเป็นของทหาร ที่เข้ามาดูแลช่วยเหลือประชาชน จึงขออย่าหลงเชื่อกลุ่มไม่หวังดีที่บิดเบือนข้อมูลต่างๆ

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกับประชาชนว่า นายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญใหม่ต้องมาจากพรรคที่ได้เสียงข้างมาก ซึ่งจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล และทุกพรรคการเมือง จะต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ตามบัญชีรายชื่อ การที่ตนเองพูดเรื่องนี้ไม่ได้หมายถึงตัวเอง แต่อยากชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาล-คสช.มุ่งรับใช้ประชาชน และขอให้ประชาชนที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้ง อย่าเลือกแบบเรื่อยเปื่อย ก่อนจะย้ำว่า การลงพื้นที่ไม่ได้มีเจตนาในการหาเสียงเพื่อมุ่งหวังผลในการเลือกตั้ง และก่อนจะเดินทางกลับเพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีได้ทักทายผู้สูงอายุที่กล่าวว่า "รักนายกฯ" และขอให้ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า อยู่ในแผนอยู่แล้ว คือ เส้นทางเด่นชัย-แพร่-เพชรบูรณ์ ก่อนที่ผู้สูงอายุจะอวยพรให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับว่า "จ้า รักทุกคน"

ภาพ อสมท.