posttoday

อัดงบ’62 ลุยเลือกตั้ง

01 กันยายน 2561

ผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562

โดย ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์ 

ผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ภายหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 206 คะแนน เห็นชอบกับร่างกฎหมายดังกล่าวภายในเวลา 3 ชั่วโมง

ทั้งนี้ โครงสร้างของงบประมาณประจำปี 2562 อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ 6 ด้าน

1.ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 329,239 ล้านบาท เพื่อปฏิรูปกลไกการบริหารประเทศและพัฒนาความมั่นคงทางการเมือง ขจัดคอร์รัปชั่น ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านความมั่นคง พัฒนาระบบเตรียมความพร้อมแห่งชาติ

2.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 406,496 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาอุตสาหการและการผลิตภาคการเกษตร พัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

3.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน 560,884 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ยกระดับคุณภาพการศึกษา และการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ เท่าเทียมและทั่วถึง

4.ยุทธศาสตร์ด้านการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างการเติบโตจากภายใน 397,581 ล้านบาท เพื่อการสร้างความมั่นคงและลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจและสังคม การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ การสร้างความเสมอภาคเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ สร้างความ
เข้มแข็งของสถาบันทางสังคม

5.ยุทธศาสตร์ด้านการจัดการน้ำและสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 117,266 ล้านบาท เพื่อจัดระบบอนุรักษ์ ฟื้นฟูและป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติให้มีความหลากหลายทางชีวภาพคงความอุดมสมบูรณ์ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ

6.ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ 838,422 ล้านบาท เพื่อลดปัญหาการทุจริตในสังคมไทยโดยปลุกจิตสำนึกและสร้างค่านิยมให้ทุกภาคส่วนตระหนักรู้ในเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต คุณธรรม จริยธรรม ปรับปรุงและพัฒนากฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทำให้งบประมาณปี 2562 จึงมีความสำคัญขึ้นมาทันที เพราะแน่นอนว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นช่วงกลางปีหน้า

งบประมาณก้อนแรกที่สำคัญที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ รายจ่ายงบกลาง โดยงบกลางหมายถึงงบประมาณที่ตั้งไว้เพื่อจัดสรรให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐเพื่อนำไปใช้นอกเหนือจากงบประมาณที่ได้รับตามกฎหมายปกติ และเป็นงบประมาณสำหรับใช้จ่ายเฉพาะเรื่อง ซึ่งในทางการเมืองต่างทราบดีว่างบประมาณในส่วนนี้ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้เพื่อสร้างนโยบายทางการเมือง

เดิมทีงบกลางถูกตั้งไว้จำนวน 1.02 แสนล้านบาท แต่เมื่อกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พบว่าตัวเลขสุดท้ายของงบกลางอยู่ที่ 1.055 แสนล้านบาท

งบกลางที่ได้รับเพิ่มขึ้นนั้นไปอยู่ที่เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 9.9 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ถูกตั้งไว้ที่จำนวน 9 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่เกิดขึ้นและใช้จ่ายตามสภาพเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมาย ไม่สามารถประมาณการค่าใช้จ่ายที่แน่นอน และไม่อาจจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบได้โดยตรง

งบประมาณที่น่าจะเป็นตัวสะท้อนถึงความคิดทางการเมืองของรัฐบาลและ คสช.ได้เป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้น “กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก” จำนวน 4 หมื่นล้านบาท

วัตถุประสงค์ของกองทุนดังกล่าว เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยสร้างความมั่นคง เพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบคุ้มครองทางสังคมอย่างครบวงจรสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร อันจะสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับฐานราก และทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน ตลอดจนเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการโครงการเพื่อสังคม และช่วยเหลือคนในชุมชนท้องถิ่นให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน รวมถึงทำให้จำนวนผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาท/ปี ลดลงปีละ 6 แสนคน

ทั้งนี้ กรณีของงบประมาณกองทุนประชารัฐฯ จะพบว่า สนช.ไม่ได้มีการแก้ไขหรือปรับลดแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าการเมืองนับจากนี้ไป รัฐบาลจะใช้กองทุนประชารัฐฯ เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ

เช่นเดียวกับงบประมาณสำหรับแผนบูรณาการขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้รับงบประมาณ 14,848 ล้านบาท ซึ่งอภิมหาโครงการเศรษฐกิจของรัฐบาลที่พยายามใช้เป็นผลงานชิ้นโบแดงมาโดยตลอด

ดังนั้น จะเห็นได้ว่ารัฐบาลและ คสช.กำลังเดินหน้าแซงพรรคการเมืองไปหลายช่วงตัว โดยอาศัยความเป็นฝ่ายบริหารในระหว่างที่พรรคการเมืองยังไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ จึงอาจเรียกได้ว่ารัฐบาลและ คสช.น่าจะพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง