posttoday

"ปิยบุตร" ชวนคนรุ่นใหม่ไม่รับมรดกบาป-พาประเทศออกจากความขัดแย้ง

26 สิงหาคม 2561

ปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ชวนคนรุ่นใหม่กำหนดอนาคตด้วยตัวเอง ไม่รับมรดกบาป

ปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ชวนคนรุ่นใหม่กำหนดอนาคตด้วยตัวเอง ไม่รับมรดกบาป

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ศูนย์ประชุมแก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเสวนาในหัวข้อ "นักศึกษากับการเมืองของคนรุ่นใหม่" โดยมีตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก

นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า มีคำที่มักได้ยินต่อๆ กันมากคือ คนรุ่นใหม่ควรตั้งใจศึกษาเล่าเรียน อย่าไปยุ่งการเมือง แต่สิ่งที่อยากชวนคุย คือ จะทำอย่างไรให้คนเข้าใจความหมายของการเมืองที่กว้างขึ้น ว่าการเมืองไม่ใช่แค่เรื่องการเลือกตั้ง ไม่ได้มีแต่การลากเก้าอี้ทุ่มใส่กันในสภา หรือการยึดถนนเมืองปิดเมือง

เราต้องเข้าใจว่าการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจที่ใช้ในการจัดสรรทรัพยากร อำนาจในการตัดสินใจใช้เรื่องต่างๆ ยกตัวอย่างล่าสุด ที่กระทรวงศึกษาธิการที่จะออกกฎมาห้ามเยาวชนมากมาย นี่คือการติดสินใจที่นักศึกษาไม่มีส่วนร่วม แต่ก็ต้องปฏิบัติตาม การที่บอกว่าไม่ไปยุ่งการเมือง แต่เชื่อเถอะว่า วันหนึ่งการเมืองก็มายุ่งกับเราเอง คือ พอเราไม่ไปยุ่ง ก็จะมีคนมายุ่งและมาตัดสินใจแทนเรา

"อย่างการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี มีความเหลื่อมล้ำสูง เกี่ยวข้องกับเราอย่างแน่นอน เรานักศึกษา เรียนจบแล้ว เริ่มต้นทำงาน ตั้งตัวทำธุรกิจใหม่ๆ แต่ก็ไปต่อไม่ได้ เพราะติดข้อกฎหมาย เจอทุนผูกขาดที่เอื้อให้เฉพาะกลุ่มคนไม่กี่กลุ่ม หรืออย่างเรื่องรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เขียนโดยคนแก่ที่อีกไม่กี่ปีก็เสียชีวิตไปตามอายุขัย แต่เราเยาวชนคนรุ่นใหม่ต้องอยู่อีกอย่างน้อย 50 ปี ถามว่า ยุติธรรมหรือที่คนแก่ๆ เหล่านั้นมากำหนดอะไรไม่รู้ให้เราถามว่าถ้าไม่ยุ่งการเมือง ก็จะต้องอยู่อย่างนี้ แม้คนเขียนกฎหมายตายไปแล้ว แต่ก็ยังมีมือผีของเขามาบีบคอเราเอาไว้ให้ทำตาม"

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ประเทศไทยตอนนี้ เปรียบเหมือนท่าเต้น มูน วอล์ก ของ ไมเคิล แจ็คสัน คือ เหมือนจะก้าวไปข้าวหน้าแต่แท้จริงแล้วถอยหลัง จำนวนปี พ.ศ. เดินไปข้างหน้า แต่ชีวิตและสังคมของเราเหมือนจะดึงกลับไป ยุค พ.ศ. 2520

นายปิยบุตร กล่าวว่า พลังของนักศึกษา คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่นนี้เป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน คนรุ่นนี้คือคนที่ชีวิตยังไม่เคยมีโอกาสได้เลือกตั้ง คนอายุ 20 ปีต้นๆ ที่เมื่อลองย้อนดูก็จะพบว่า อยู่กับการเมืองที่ผิดปกติมาเกินกว่าครึ่งชีวิต และที่สำคัญ วันนี้ก็ยังอยู่ในความผิดปกตินั้น ซึ่งคนรุ่นใหม่เหล่านี้ไม่เกี่ยวอะไรเลย เกิดมา จำความได้ ก็เจอเรื่องสีเสื้อ เจอความขัดแย้งในสังคมแล้ว เป็นกลุ่มคนที่ต้องรับมรดกบาปที่คนรุ่นก่อนทิ้งไว้ให้

ดังนั้น พลังของคนรุ่นใหม่รุ่นนี้ จึงมีความชอบธรรมสูงที่สุดที่จะออกไปบอกว่า พอกันที อย่าทิ้งมรดกบาปแบบนี้ไว้ให้เรา คุณจะส่งมอบสังคมแบบนี้ต่อมาให้เราไม่ได้ เราต้องกำหนดอนาคตด้วยตัวเอง