posttoday

"บิ๊กตู่"จ่องัด ม.44 แก้ไพรมารีโหวต ย้ำเลือกตั้ง กพ.เหมาะสม

22 สิงหาคม 2561

นายกรัฐมนตรี ย้ำ เลือกตั้ง ยึดตามโรดแมป เดือน ก.พ. เหมาะสม แย้มอาจใช้ ม.44 แก้ไพรมารีโหวต จับตากลุ่มจ้องป่วนในโซเชียล

นายกรัฐมนตรี ย้ำ เลือกตั้ง ยึดตามโรดแมป  เดือน ก.พ. เหมาะสม แย้มอาจใช้ ม.44 แก้ไพรมารีโหวต จับตากลุ่มจ้องป่วนในโซเชียล

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมเรื่องการเลือกตั้ง ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม ว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสอดคล้องกับแนวทางรัฐบาลและคสช.เรื่องการปลดล็อกและปฏิบัติตามกฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งยึดตามกรอบเวลาของโรดแมปที่กำหนดไว้ และขณะนี้มีการคาดการณ์ว่าเวลาอาจล่วงเลยไปจากกรอบเดิม แต่หากเป็นไปได้ก็ต้องการให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือน ก.ค. 2562

ส่วนการแก้ไขระบบไพรมารีโหวตนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องดำเนินการให้ได้เพราะได้เขียนไว้ในกฏหมายแต่ในปีแรกจะมีปัญหาในเรื่องนี้หรือไม่และจะแก้ไขอย่างไรให้สามารถทำได้ในระดับหนึ่ง เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับกฏหมาย แต่ในอนาคตคาดว่าจะสามารถใช้ระบบไพรมารีโหวตได้ 100%  แต่หากตนเองเข้าไปดำเนินการอะไรมากก็จะไม่สามารถเลือกตั้งได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ และปัญหาก็จะกลับมาที่ตนเองอีก เพราะส่วนตัวต้องการให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามโรดแมป และเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด แต่สามารถยืดเวลาไปได้อีก แต่ส่วนตัวจะพยายามลดเวลาให้น้อยที่สุด

ส่วนจะใช้คำสั่ง คสช. ตามมาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาระบบไพรมารีโหวตหรือไม่นั้น นายกฯ ยืนยันว่าอะไรมีปัญหาส่วนตัวจะแก้ไขทั้งหมด เพราะเป็นอำนาจที่ตนเองต้องแก้ไขเพื่อให้สามารถทำงานได้ แม้อาจจะแก้ไขไม่ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ทำให้เกิดการเลือกตั้งตามที่ทุกคนต้องการและเพื่อให้เกิดความสงบสุข จึงขอย้ำอีกครั้งว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใครจึงของอย่านำรัฐบาลและ คสช. เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะตอนนี้การเมืองยังไม่เริ่ม แต่ปี่กลองเริ่มประโคมกันแล้ว ยังไม่ถึงยก 3 เลย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ในที่ประชุม สมช. ไม่ได้มีการพูดคุยด้านการข่าวหรือการเมืองอะไรเพราะหน้าที่ของรัฐบาลคือสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับประเทศเพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งและขึ้นอยู่กับคนหลายส่วน คนหนึ่งอยากให้สงบและอีกคนไม่อยากให้สงบแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครจึงต้องติดตามทุกกลุ่มและอย่าทำให้บ้านเมืองสับสนอลหม่าน จึงขออย่ากังวลในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันยืนยันว่าจะจ้องจับตาดูความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียที่มีการขยายความขัดแย้ง เพราะโซเชียลมีเดียเป็นบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้มากกว่าสร้างคนออกมาสอง 2 ฝ่ายเพื่อตีกัน จึงขอให้สื่อมวลชนช่วยติดตามและประณามการกระทำของบุคคลเหล่านั้นด้วย ไม่ใช่สร้างความแตกแยกเพิ่ม

ดังนั้นการไปสู่ประชาธิปไตยในวันข้างหน้าจะต้องแก้ไขกันใหม่ว่าจะสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนและให้เกิดความสงบอย่างไร แม้ว่าจะไม่ชอบก็ตามแต่ต้องยอมรับในกติกาการเลือกตั้ง ซึ่งการได้รัฐบาลมาจะต้องได้รับการยอมรับทั้งจากเสียงส่วนมากและส่วนน้อย โดยรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่เพื่อเสียงส่วนมากและส่วนน้อยไม่ว่าจะเป็นของพรรคใดก็ตาม ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน รัฐบาลจะต้องดำเนินการในลักษณะนี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ในต่างจังหวัด ตนเองไม่ได้มองว่าใครอยู่ตรงไหนแต่มองว่าประชาชนต้องการอะไร ไม่ว่าจะพื้นที่ใดก็ตามเพราะส่วนใหญ่พรรคการเมืองมักจะมองเป็นพื้นที่และเกิดความขัดแย้ง สิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะต้องทำหน้าที่ดูแลประชาชนทั้งประเทศ