posttoday

"บิ๊กตู่"ลงพื้นที่ดูแก้ปัญหาจราจร แนะนำเทคโนโลยีมาใช้

15 สิงหาคม 2561

นายกฯ นำคณะร่วมรับฟังแนวทางแก้ไขปัญหาจราจร แนะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาควบคุมการจราจร เชื่อมโยงระบบราง ชี้ ต้องเห็นผลรูปธรรมภายใน 3 เดือน

นายกฯ พร้อมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังแนวทางแก้ไขปัญหาจราจร แนะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาควบคุมการจราจร เชื่อมโยงระบบราง ชี้ ต้องเห็นผลรูปธรรมภายใน 3 เดือน

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง  ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเชื่อมต่อโครงข่ายการสัญจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เส้นทาง ล้อ ราง เรือ

จุดแรกนายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.)  เพื่อรับฟังบรรยายสรุปปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครอันเนื่องมาจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลักการสำคัญของการแก้ไขปัญหาจราจร ในกทม.และปริมณฑล ต้องเพิ่มเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้แทนตัวบุคคล ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยจะหารือกับฝ่ายวิจัยของมหาวิทยาลัย เพื่อนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาควบคุมการจราจร  พร้อมแนะให้เปิดเส้นทางเดินรถใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนเมือง เพื่อลดความแออัด โดยขยายออกไปในพื้นที่ปริมณฑล

นอกจากนี้ เน้นการสร้างระบบเชื่อมต่อการเดินรถ หรือ ฟีดเดอร์ เพราะปัจจุบัน ระบบเดินรถทางบก ยังไม่เชื่อมต่อระบบราง ในทุกเส้นทาง ส่วนเส้นทางไหนมีทางน้ำขนาบให้ไปพิจารณาเบี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำควบคู่  โดยกำชับให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับ กทม.ศึกษาเส้นทางสัญจรทางน้ำเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้างถนน ให้คำนึงถึงความปลอดภัย ของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ลดช่องทางจราจร จะต้องให้สัญญาณล่วงหน้าก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ พร้อมขอให้ทุกคนเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงสื่อมวลชน ต้องช่วยกันในการนำเสนอข้อมูลการจราจรที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังแนะนำให้เอกชน ไปสำรวจพื้นที่สร้างที่จอดรถ ใกล้กับสถานที่ที่สำคัญ และเสนอมายังรัฐบาลเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ให้หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น และบรรเทาการจราจรติดขัดบนท้องถนน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับล่าง ที่อำนวยความสะดวกโดยปิดช่องทางการจราจรให้ตนเวลาเดินทาง แต่ขอให้ปิดเท่าที่จำเป็น แต่ถ้าไม่ได้ ก็ไม่ต้องปิด เพราะตนพร้อมติดไปกับทุกคน

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหาจราจร เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ และถือเป็นวาระสำคัญของกรุงเทพมหานคร ที่ทุกคนต้องช่วยกัน ตนเองก็อยู่กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือรัฐบาล ต้องใช้ระบบการจราจรเช่นเดียวกัน ให้เข้าใจร่วมกัน และช่วยกัน และขอให้การแก้ไขจราจร มีผลรูปธรรมภายใน 3 เดือน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะผู้บริหาร กทม. ตรวจเยี่ยมระบบขนส่งมวลชน BTS โดยทดลองนั่งจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ไปยังสถานีบางหว้าและเดินทางต่อโดยใช้ทางเดินยกระดับ หรือ สกายวอล์ค

จากนั้นนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายข้อมูลการเดินเรือคลองภาษีเจริญ เส้นทางส่วนต่อขยายไปวัดกำแพงบางจาก และแผนงานการพัฒนาการเดินเรือในคลองภาษีเจริญ และส่วนต่อขยายในอนาคตบริเวณท่าเรือตากสิน-เพชรเกษม (บางหว้า) และลงเรือที่ท่าเรือสะพานตากสินไปยังท่าเรือวัดกำแพงบางจากระยะทาง 2.5 กม.จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดอินทาราม (บางยี่เรือ) เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการฟื้นวิถีชีวิตชุมชนคลองบางหลวงผ่านการท่องเที่ยวย่านประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี