posttoday

มติพรรครวมพลังประชาชาติไทยเลือก "ม.ร.ว.จัตุมงคล" นั่งหัวหน้า

05 สิงหาคม 2561

พรรครวมพลังประชาชาติไทยมีมติเลือก "ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล" นั่งหัวหน้าพรรค "ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง" เลขาธิการ ขณะที่ อเนกถอนตัวจากแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนที่สอง

พรรครวมพลังประชาชาติไทยมีมติเลือก "ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล" นั่งหัวหน้าพรรค "ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง" เลขาธิการ ขณะที่ อเนกถอนตัวจากแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนที่สอง

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. เวลา 9.30น. ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) มีการประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรค โดยม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ในฐานะประธานในที่ประชุม แจ้งว่า การประชุมพรรคในวันนี้ จะนำไปสู่การจดทะเบียนต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อตั้งเป็นพรรคการเมืองตามกฎหมายต่อไป

จากนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรค กล่าวว่า เราต้องการเห็นการปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน และเมื่อได้พิจารณาสถานการณ์ทางการเมืองรอบแล้วเห็นว่ามีความจำเป็นต้องจัดตั้งพรรคการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าพร้อมกับการปฏิรูปประเทศ โดยเริ่มจากการพูดคุยจากกลุ่มเล็กๆจนได้ข้อสรุปว่าต้องตั้งพรรคการเมืองของประชาชนให้ได้ ไม่ได้เพื่อประโยชน์ของใคร แต่เป็นเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งพรรคการเมืองนี้จะเป็นต้นแบบของพรรคการเมืองของประชาชนต่อไป

นายสุเทพ กล่าวว่า หัวใจสำคัญของพรรคนี้ คือ ประชาชน เป็นเจ้าของพรรคที่กำหนดนโยบายพรรคการเมืองและเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นการลงคะแนนโดยตรงและประชาชนจะเป็นผู้กำกับควบคุมให้ผู้บริหารพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ของพรรคการเมือง ดังนั้น เป้าหมายใหญ่ของเรา คือ การประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมกันเป็นเจ้าของพรรคการเมือง เพื่ออนาคตของประเทศไทย

นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคเราถือหลักว่าประชาชนเป็นผู้กำหนดทิศทาง นักการเมืองมีหน้าที่ทำความฝันของประชาชนให้สำเร็จ ที่สำคัญ คือ พรรคต้องมีวินัยและจริยธรรม จึงต้องมีกรรมการวินัยและจริยธรรมเพื่อคอยกำกับนักการเมือง รับรองว่าไม่ต้องรอให้นักการเมืองไปสร้างความเสียหายเกิดขึ้น แต่เราจะควบคุมกันเองก่อนทันที ซึ่งทั้งหมดเตรียมการเอาไว้แล้ว แต่ยังทำอะไรมากไม่ได้ เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่สามารถให้ทำกิจกรรมทางการเมือง จึงจำเป็นต้องรอคสช.ก่อน จากนั้นจะเดินหน้าทันที

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งใกล้าเข้ามาแล้ว มีหลายเรื่องที่เราต้องทำ เช่น การตั้งสาขาพรรค การเตรียมตัวผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง รวมไปถึงการทำไพรมารี่โหวต ยืนยันว่าทุกเขตเลือกตั้งของพรรค จะต้องมาจากการทำไพรมารี่โหวต เรียกได้ว่าประชาชนเป็นคนกำหนดตัวผู้สมัครของพรรค เช่นเดียวกับ สส.บัญชีรายชื่อ ตกลงกันแล้วว่าจะให้มีจำนวนชายและหญิงเท่ากัน แต่ทั้งหมดจำเป็นต้องจัดตั้งพรรคให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน

"ผมยังยืนยันว่าภูมิใจที่จะยืนเคียงข้างพรรคการเมืองนี้และจะทำงานอย่างทุ่มเทกับทุกคน และจะไม่รับตำแหน่งใดๆในพรรคการเมืองนี้ ผมตั้งใจจะเป็นผู้รับใช้ประชาชนเพื่อสร้างพรรคการเมืองนี้ อีกทั้งจะไม่ลงสมัครสส.ทั้งระบบแบ่งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ แต่ผมจะขึ้นเวทีปราศรัยช่วยพรรคทั่วประเทศ" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวสรุปว่า เชื่อมั่นว่าพรรคเราจะได้เป็นรัฐบาล ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่หมอดู แต่ด้วยความที่อยู่ในการเมืองมานาน และพรรคเราเป็นพรรคของประชาชนแท้จริง ใครๆก็อยากคบด้วย และภายหลังการเลือกตั้งไม่มีรัฐบาลพรรคเดียวแน่นอน แต่จะเป็นรัฐบาลผสม ถึงเวลานั้นก็รอรับขันหมากได้เลย

"ผมจะไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล ผมจะสนับสนุนนักการเมืองรุ่นใหม่ให้ขึ้นมาทำหน้าที่ โดยผมจะทำหน้าที่เป็นโค้ชและพี่เลี้ยงและนำประสบการณ์ของผมกว่า 40 ปีไปช่วยงานต่อไป เป็นการตอกย้ำว่าผมเองยังรักษาคำพูด และการตั้งพรรคการเมืองนี้ไม่ได้หวังประโยชน์ส่วนตัวเพราะตั้งใจรับใช้ประชาชน" นายสุเทพ กล่าว

ต่อมา ที่ประชุมได้เข้าสู่กระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคจำนวน 7 ตำแหน่ง โดยมีมติดังนี้

1.ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหัวหน้าพรรค ด้วยคะแนนเสียง 331 คะแนน

ทั้งนี้ ได้มีผู้ร่วมจัดตั้งพรรคเสนอชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นแคนดิเดทในตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่นายเอนก ประกาศขอถอนตัว โดยระบุว่าม.ร.ว.จัตุมงคล มีความเหมาะสมมากกว่า

2.นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง อดีตอัยการ เป็นเลขาธิการพรรค ด้วยคะแนนเสียง 328 คะแนน

3.น.ส.จุฑาทัตต เหล่าธรรมทัศน์ เป็นเหรัญญิกพรรค ด้วยคะแนนเสียง 326 คะแนน

4.ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ อาจารย์ประจำสถาบันอาชญาวิทยา และการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นนายทะเบียนพรรค ด้วยคะแนนเสียง 315 คะแนน

5.พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ เป็นกรรมการบริหารพรรค ด้วยคะแนนเสียง 327 คะแนน

6.นายวีระชัย คล้ายทอง อดีตอัยการ เป็นกรรมการบริหารพรรค ด้วยคะแนนเสียง 326 คะแนน

7.นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ เป็นกรรมการบริหารพรรค ด้วยคะแนนเสียง 324 คะแนน

นายสุเทพ กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้จะทำหน้าที่ไปจนกว่าจะการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งแรก จากนั้นจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดถาวร โดยส่วนตัวอยากให้มีสมาชิกพรรคประมาณ 5-6แสนคนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรค

*********************

ภาพจาก เถกิง สมทรัพย์