posttoday

นายกฯชวนคนไทยรวมเป็นหนึ่้งสร้างอนาคตชาติตามแผน20ปี

03 สิงหาคม 2561

นายกฯแจงสร้างยุทธศาตร์ชาติ20ปีไม่ได้บังคับใคร แผนการเปลี่ยนกันได้ตามปัจจัยแวดล้อม อนาคตชาติ จะสำเร็จสมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าปราศจากเป้าหมาย ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

นายกฯแจงสร้างยุทธศาตร์ชาติ20ปีไม่ได้บังคับใคร แผนการเปลี่ยนกันได้ตามปัจจัยแวดล้อม อนาคตชาติ จะสำเร็จสมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าปราศจากเป้าหมาย ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในรายงานศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า การที่แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีกฎหมายรองรับเป็นอีกความตั้งใจที่จะสะท้อนความสำคัญและความมุ่งมั่นของภาครัฐ ที่จะทำให้เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ได้เป็นการล็อค หรือบังคับให้ใครต้องทำอะไร อย่างที่หลายฝ่ายนำมาบิดเบือนโจมตี ในขณะนี้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้วว่า เมื่อสถานการณ์หรือปัจจัยแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งต้องเปลี่ยนไป ยุทธศาสตร์ชาติก็สามารถจะได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ได้ แต่สิ่งที่เป็นความท้าทายและน่ากังวลมากกว่า ก็คือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้สำเร็จผลตามที่กำหนดไว้ เพราะไม่ว่ายุทธศาสตร์ชาติจะเขียนดีแค่ไหน มีการปรับให้ทันสมัยเพียงใด แต่หากทุกคนไม่ยอมรับ ไม่ช่วยกันนำไปขับเคลื่อน ตามภาระหน้าที่ของตน เป้าหมายหรือ "ภาพอนาคต" ที่วาดหวังไว้นั้น ก็คงเป็นได้แค่เพียง "ความฝัน"

การสร้างอนาคตประเทศไทยในช่องทางต่างๆจะสำเร็จสมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าปราศจากเป้าหมาย ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมา วันนี้ทุกอย่างค่อยๆ ปรับดีขึ้น ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากต่างประเทศมากขึ้น การขยายตัวของเศรษฐกิจดีขึ้น การลงทุน และการส่งออก นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มีโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น ประเทศกำลังทยอยเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งให้การเติบโตลงไปยังฐานรากได้ดีขึ้น ที่สำคัญเรากำลังจะมียุทธศาสตร์ชาติที่จะช่วยให้เราทุกคนเห็นเป้าหมายร่วมกัน ได้เห็นเส้นทาง ที่เราจะเดินไปสู่เป้าหมาย ส่วนใครจะวิ่ง ใครจะเดิน ใครจะบินไป ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการ และศักยภาพ ของแต่ละคนใครที่แข็งแรง ก็ไปถึงเป้าหมายได้เร็วหน่อย ในส่วนของรัฐบาล ก็มีหน้าที่ที่ต้องคอยประคับ ประคอง ให้คนที่ยังอ่อนแอ หรือแข็งแรงน้อยกว่า ได้มีโอกาสพัฒนา และก้าวไปสู่เป้าหมายเดียวกัน เพราะเราไม่ต้องการ "ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" แต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด และ จะมีอิทธิพลต่อการสร้างอนาคตของประเทศ มากที่สุด  ซึ่งสามารถทำได้ทันที ก็คือการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เริ่มที่ตัวเรา ไม่ต้องรอให้คนอื่นเปลี่ยน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า องค์กรสื่อถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย นอกเหนือไปจากสถาบันภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ทั้งหมดนี้ คุณภาพ และความตั้งมั่น ในการให้บริการ ให้ข่าวสารโดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ของการทำงาน จะทำให้องค์กรสื่อ เป็นอีกแรงหนึ่ง ในการจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปสู่อนาคตที่ดี  รวมถึงการเป็นประชาธิปไตยของประเทศให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบัน ในยุคที่สื่อเกิดขึ้นในรูปแบบที่หลากหลาย สามารถเข้าถึงประชาชนได้ อย่างใกล้ชิด รวดเร็วมากยิ่งขึ้นนี้ การยืนหยัดเพื่อต่อสู้ และนำเสนอสิ่งที่ถูกต้องของสื่อหลักถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะเป็นทั้งหลัก และแรงบันดาลใจ ให้กับสื่ออื่น ๆ แล้วยังจะทำหน้าที่เป็นแกนกลาง ของข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ ให้กับประชาชนด้วย คำว่า"สื่อ"มีความชัดเจนในความหมายอยู่แล้วว่าเป็น "ตัวกลาง" ในที่นี้ คือ การส่งผ่านข่าว สาร ข้อมูล นโยบาย และมาตรการต่างๆ ให้กับประชาชน หน้าที่นี้ทำให้สื่อมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก ต่อกรอบความคิด และมุมมอง ของประชาชน และถ้ามองลึกลงไปอีก ข้อมูลต่างๆ ที่ถูกนำเสนอจะสามารถสะท้อนให้เห็นถึงการทำงาน และปัญหาที่หลายฝ่ายต้องประสบ และอาจจะต้องสร้างความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจกันระหว่างภาคส่วนต่างๆ เกิดการบูรณาการได้มากขึ้น

ทั้งนี้ขอให้ทุกคน ทุกภาคส่วน ได้ร่วมกัน "สร้างไทยไปด้วยกัน"  เพื่ออนาคตของลูกหลาน และ เพื่อวันข้างหน้าที่ดีกว่าของเราทุกคน