กกต.ยันไม่ทิ้งทวน ผู้ตรวจการเลือกตั้ง

"พ.ต.อ.จรุงวิทย์" ยันไม่มีทิ้งทวนเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชี้ กกต.ใหม่ไม่พอใจเปลี่ยนได้ พร้อมถกมาตรการหาเสียงผ่านโซเชียล

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในช่วงรอยต่อ กกต.เก่าได้มีการเตรียมงานต่างๆ ไว้ เมื่อ กกต.ใหม่เข้ามาจะทำงานได้เลย เช่น การคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ และจะมีการส่งไปประกาศตามจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้มีการตรวจสอบ คัดค้าน และหากพบมีผู้ที่คุณสมบัติไม่เหมาะสมได้รับการคัดเลือก จะได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง

ขณะเดียวกันจะต้องมีการจัดฝึกอบรมในการตรวจสอบการเลือกตั้ง การรายงานเหตุต่างๆ เรื่องเหล่านี้ต้องอาศัยเวลา จึงทำให้ กกต.ชุดปัจจุบันเห็นว่าจำเป็นต้องคัดเลือกไปก่อน หากรอให้กกต.ชุดใหม่เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการและเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งก็อาจเกิดปัญหา ยืนยันการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งไม่ได้เป็นการวางคนของ กกต.ชุดนี้ไว้

"การสรรหาและคัดเลือกทั้งประเทศ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะมีคนของใครคนหนึ่งอยู่ทั่วประเทศ และผู้ตรวจฯ เมื่อเวลาเลือกตั้งก็เหมือนเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ถ้าหากทำผิดก็ต้องโดนดำเนินคดีได้เหมือนกัน และหนักกว่าคนปกติทั่วไป และถ้า กกต.ชุดใหม่เห็นว่าไม่เหมาะสมก็สามารถปรับเปลี่ยน เพราะกฎหมายก็มีช่องในเรื่องการพ้นจากตำแหน่ง" พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว

สำหรับเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งผ่านทางโซเชียลมีเดียนั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กกต.ได้มีการตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เลขาฯ กสทช. และผู้เกี่ยวข้องอีกหลายส่วน จะประชุมนัดแรกในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยจะมีการพิจารณาถึงขอบเขตการหาเสียงผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะการจัดการกับการใส่ร้ายทางโซเชียลมีเดียว่า หากเกิดขึ้นจะมีการลบหรือดำเนินคดีกันอย่างไร และการห้ามหาเสียงหลังเวลา 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้ง จึงพยายามจะดูรายละเอียดต่างๆ ให้ครอบคลุม

นอกจากนี้ สำนักงานฯ มีการตั้งคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยตัวแทนของพรรคการเมือง ซึ่งจะมีการนัดหารือเพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งว่าควรจะเป็นเท่าใด แต่สำนักงานฯ เห็นว่าไม่น่าเกินกว่าของเดิม คือ 1.5 ล้านบาท/คน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กกต.ชุดเก่าสามารถเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง 77 จังหวัดโดยไม่รอ กกต.ชุดใหม่ เพราะกฎหมายเปิดช่องไว้ และเท่าที่ทราบ กกต.ชุดเก่าอ้างถึงเหตุผลที่ต้องรีบเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา ซึ่งอะไรที่ทำให้เร็วได้ก็ดีทั้งนั้น