เล็งตร.ห้ามอารักขาคนติดคดี

"มีชัย" เล็งจัดระบบตำรวจติดตามอารักขาบุคคลสำคัญ ส่งซิกต้องติดตามนายกฯ ที่ไม่มีคดีติดตัว

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า  มีแนวคิดที่จะจัดระบบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจติดตามอารักขาบุคคลสำคัญ

"ทั้งนี้ต้องการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศให้ชัดเจนว่าบุคคลตำแหน่งใดที่อยู่ในข่ายจะขอตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอารักขาได้ และจะใช้จำนวนกี่นาย เพื่อให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากปัจจุบันมีการขอตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไปใช้ในส่วนนี้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่อัตรากำลังตำรวจมีน้อยมีไม่เพียงพอ" นายมีชัย กล่าว

ประธาน กรธ.ยกตัวอย่างตำแหน่งที่อยู่ในข่ายต้องมีตำรวจอารักขา เช่น อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นตำแหน่งที่เป็นเกียรติของประเทศแต่ต้องไม่มีคดีติดตัว

อย่างไรก็ตาม นายมีชัยปฏิเสธที่ จะให้ความเห็น กรณี พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย อดีตนายตำรวจติดตามอารักขา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปรากฏภาพติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ต่างประเทศ ว่าเข้าข่ายกระทำผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยขอให้เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปดำเนินการเนื่องจากไม่ทราบข้อเท็จจริง

พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า  ได้ติดตามเคลื่อนไหวอดีต สส. รวบรวมสมาชิกตั้งพรรคการเมืองอยู่ ดังนั้นทุกคนดำเนินการตามกรอบกฎหมายและอำนาจหน้าที่ ไม่ละเมิด ก้าวล่วงกัน การบริหารราชการแผ่นดินก็สามารถเดินต่อไปได้ตามกรอบโรดแมป เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งช่วงต้นปี 2562 ซึ่งทุกอย่างยังคงเป็นไปตามนี้

สำหรับการเคลื่อนไหวของนักการเมืองที่ลงไปพบปะพูดกับประชาชนและลงพื้นที่ต่างๆ นั้น อาทิ กลุ่มสามมิตร ขอย้ำว่า คสช.ติดตามการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม ซึ่งสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน คสช.ประเมินว่ายังไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่ต้องน่าวิตกและห่วงใย

"ถ้าไม่ขัดกฎหมาย คสช.จะติดตามเฝ้าดูเท่านั้น และจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ถ้าขัดกฎหมาย คสช.จะมีมาตรการแจ้งให้ทราบ จากนั้นก็ตักเตือนห้ามปรามระงับยับยั้ง ให้เป็นไปตามกฎหมาย ยืนยัน คสช.และทหารทุกพื้นที่ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง" พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าว