posttoday

"บิ๊กป้อม"ลงขอนแก่นโชว์แก้หนี้นอกระบบ

20 กรกฎาคม 2561

พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น โชว์แก้หนี้นอกระบบ คืนโฉนดให้ชาวบ้านกว่า 150 ราย จี้ดำเนินคดีนายทุนดอกโหด ข้อหาฉ้อโกง

พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น  โชว์แก้หนี้นอกระบบ คืนโฉนดให้ชาวบ้านกว่า 150 ราย จี้ดำเนินคดีนายทุนดอกโหด ข้อหาฉ้อโกง

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางไป จ.ขอนแก่น  เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน โดยภาพรวมพบว่า  12 จังหวัดในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ( บชภ.4 ) มีประชาชนร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากการเป็นหนี้นอกระบบจำนวนมาก โดยถูกเจ้าหนี้  ผู้ปล่อยกู้ จัดทำสัญญาเอารัดเอาเปรียบ ไม่เป็นธรรม ในลักษณะนิติกรรมอำพรางหลายรูปแบบ เช่น สัญญากู้เงินที่ลงนามร่วมกันโดยไม่ลงจำนวนเงิน, การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา, การบังคับจำนองหรือขายฝาก, การลงนามในเอกสารเท็จ โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น โฉนดที่ดิน เป็นต้น  ซึ่งเมื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว  ลูกหนี้มักเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และถูกข่มขู่ คุกคามใช้ความรุนแรงตามมา มีผลต่อสุขภาพจิตและบั่นทอนคุณภาพชีวิตครอบครัวอย่างมาก

ฝ่ายความมั่นคง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้ความพยายามขยายผล สืบสวนลูกหนี้ โดยสามารถเอาผิดกับผู้ปล่อยกู้ ในข้อหา “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน  ร่วมกันให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม”  ซึ่งมีผลบังคับทั้งกฎหมายฟอกเงิน สู่การยึดทรัพย์และมาตรการทางภาษีตามมา โดยที่ผ่านมา การปฏิบัติการในพื้นที่ จว.ขอนแก่นและอุดรธานี สามารถช่วยเหลือและมอบโฉนดที่ดิน คืนให้กับผู้เสียหายได้แล้วกว่า 150 ราย มูลค่าเกือบ 140 ล้านบาท

พล.อ.ประวิตร ได้ร่วมมอบโฉนดที่ดินคืนแก่ชาวบ้านและเกษตรกร กว่า 150 ราย หลังจากนั้น ได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของ บชภ.4  ที่ริเริ่มจัดตั้ง “ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม” และร่วมกันใช้ความพยายาม ขยายผลสืบสวนข้อเท็จจริง จนสามารถเอาผิดกับผู้ปล่อยกู้นอกระบบและคืนที่ดินทำกินจำนวนมาก กลับสู่เจ้าของในที่สุด   พร้อมกับย้ำว่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญและถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม ช่วยเหลือและให้โอกาสกัน เพื่อให้ทุคนกลับมายืนและร่วมเดินหน้าเข้มแข็งไปด้วยกัน  

โดยขอให้ ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจ ร่วมทำงานเป็นหนึ่งเดียว ให้ความเป็นธรรมในการไกล่เกลี่ย ประนอมหนี้ รวมทั้งให้คำแนะนำและช่วยเหลือทางกฎหมาย เพื่อความชัดเจนของมูลหนี้และการชำระ  สำหรับกรณีที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายผิดกฎหมาย ให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนขยายผล เอาผิดทางกฎหมายอย่างจริงจัง  พร้อมทั้งได้สั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณานำแนวทาง  “ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม” ไปปรับใช้กับทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ โดยให้เร่งรัดขับเคลื่อนคลี่คลายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในภาพรวมไปพร้อมๆกัน  และที่สำคัญ ต้องช่วยเหลือนำคืนที่ดินทำกินของเกษตรกร หรือชาวบ้าน ที่ตกไปอยู่กับนายทุนปล่อยกู้เถื่อนที่เอารัดเอาเปรียบให้ได้