posttoday

เขาขอมาพบ! บิ๊กป้อม แจงเหตุผลที่เจอผู้นำท้องถิ่นของรัฐบาลสัญจร

19 กรกฎาคม 2561

พล.อ.ประวิตร แจงรัฐบาลลงพื้นที่ไปประชุมคณะรัฐมนตรีและเจอผู้นำท้องถิ่นเพราะเขามาขอพบ-ป้องกลุ่มสามมิตร พบชาวนาไม่ผิดเหตุยังไม่ใช่พรรคการเมือง

พล.อ.ประวิตร แจงรัฐบาลลงพื้นที่ไปประชุมคณะรัฐมนตรีและเจอผู้นำท้องถิ่นเพราะเขามาขอพบ-ป้องกลุ่มสามมิตร พบชาวนาไม่ผิดเหตุยังไม่ใช่พรรคการเมือง

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเสียงวิจารณ์การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่ จ.อุบลราชธานี-จ.อำนาจเจริญ เป็นการเตรียมลงไปดูด ส.ส. ว่า “ไปดูดอะไร”

เมื่อถามว่าทุกครั้งที่ลงพื้นที่รัฐบาลจะถูกวิจารณ์ว่าได้เปรียบทางการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การลงพื้นที่ของรัฐบาลทำมาตลอด 2-3 ปี แต่พอจะมาลงพื้นที่ ตอนนี้ไม่ได้แล้วหรือ

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ไม่ได้ไปพบกับ ส.ส. แต่นายกรัฐมนตรี ไปพบกับประชาชน ไปติดตามงานที่สั่งการไว้ ไม่ได้ไปพบกับ ส.ส.บางจังหวัด ก็เดินทางไปซ้ำ

ส่วนการที่ตนเองลงพื้นที่ที่ดูแลงานด้านความมั่นคง ก็ลงพื้นที่ไปดูงานของตำรวจการบริหารงานโรงพัก ทหาร และมหาดไทย แต่ไม่มีใครสนใจตนเอง

เมื่อถามว่าอดีต ส.ส.อุบลราชธานี ของพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า ถูกทาบทามให้ไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ใครทาบทาม พรรคพลังประชารัฐอยู่ที่ไหน ที่อ้างว่าเป็นของรัฐบาลเป็นของใคร ผมยังไม่รู้เลย”

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่มีกำหนดการพบผู้นำท้องถิ่นเหมือนเช่นเคยเพราะหลบเลี่ยงการถูกวิจารณ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้หลบ หากมาก็พบ ไม่มา ก็ไม่พบ ทุกครั้งที่มีการพบกัน เพราะเขาขอมาพบ ถ้าไม่มาก็ไม่พบ และครั้งนี้ก็ไม่มีอยู่ในกำหนดการว่าจะต้องไปพบ หรือมีการมาขอพบ

เมื่อถามถึงกระแสดูดหรือย้ายพรรคของอดีต ส.ส. ในช่วงเวลานี้ถือเป็นเรื่องปกติหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของ ส.ส. ตอนนี้เป็นช่วงของการเมือง ที่ผ่านทุกทีก็เป็นอย่างนี้มาทุกครั้ง

เมื่อถามกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร พูดคุยกับกลุ่มสมัชชาเรื่องข้าว เพื่อรับฟังปัญหานำไปสู่การจัดทำนโยบายพรรคการเมือง ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ได้คุยกับเขา เขาจะไปสัญญาอะไรก็ต้องไปถามจากเขา มาถาม ผมก็ไม่รู้

ส่วนจะผิดคำสั่งคสช.หรือไม่ รองนากยฯ กล่าวว่า “เขาคุยกันเองหรือเปล่า คงเหมือนกับสื่อไปคุยว่า ถ้าจะทำข่าวแล้วจะทำอย่างนี้อย่างนั้นได้หรือไม่ น่าจะเป็นเรื่องที่เขามานั่งคุยกันมากกว่า แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะยังไม่ได้เป็นพรรคการเมือง”