posttoday

สนช.ลงมติเห็นชอบ 5 ก.ก.ต.ใหม่ ขณะที่อีก 2 ไม่ผ่าน

12 กรกฎาคม 2561

สนช.ลงคะแนนเห็นชอบ 5 ก.ก.ต.คนใหม่ ขณะที่อีก 2 ไม่ผ่าน "พรเพชร"เผยเตรียมสรรหาใหม่ ชี้ว่าที่ ก.ก.ต. 5 คน ต้องออกจากงานประจำก่อน 26 ก.ค. เพื่อเลือกประธานและนำขึ้นทูลเกล้า

สนช.ลงคะแนนเห็นชอบ 5 ก.ก.ต.คนใหม่ ขณะที่อีก 2 ไม่ผ่าน "พรเพชร"เผยเตรียมสรรหาใหม่ ชี้ว่าที่ ก.ก.ต. 5 คน ต้องออกจากงานประจำก่อน 26 ก.ค. เพื่อเลือกประธานและนำขึ้นทูลเกล้า

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธาน ได้ลงคะแนนลับในการเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามรายชื่อที่ผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดยผลการลงคะแนนพบว่ามี 5 คนที่ได้รับคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก สนช. ให้ดำรงตำแหน่ง กกต.ชุดใหม่ คือ

1.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นักวิชาการสาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

2.นายอิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา และกรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์

3.นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)

4.นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา

5.นายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา

ส่วนอีก 2 คน ที่ไม่ผ่านความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่ง กกต. เนื่องจากได้คะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก สนช. คือ 1.นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 2.นายพีรศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าราชการหลายจังหวัด

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงว่า เมื่อที่ประชุมสนช.ได้มีมติให้ความเห็นชอบให้ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 5 คนแล้ว ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.พ.ศ.2560 ทั้ง 5 คนจะต้องลาออกจากตำแหน่งต่างๆภายใน 15 วันนับแต่วันที่สนช.ให้ความเห็นชอบ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 26 ก.ค.

นายพรเพชร กล่าวว่า ภายหลังพ้นวันที่ 26 ก.ค.ไปแล้ว หากบุคคลทั้ง 5 คน ได้ดำเนินการลาออกจากตำแหน่งต่างๆตามกฎหมายกกต. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะดำเนินการให้ผู้ที่ผ่านความเห็นชอบจากสนช.ดังกล่าวประชุมร่วมกันเพื่อเลือกประธานกกต.จำนวน 1 คน ก่อนจะนำรายชื่อทั้ง 5 คนขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป เนื่องจากแม้สนช.จะไม่ได้ให้ความเห็นชอบกกต.ครบทั้ง 7 คน แต่กฎหมายกกต.กำหนดให้ผู้ที่ผ่านความเห็นชอบเป็นกกต.จำนวน 5 คนก็สามารถทำหน้าที่และเป็นองค์ประชุมได้

นายพรเพชร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ถ้ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งต่างๆตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.กำหนด จะมีผลให้ผู้ที่ผ่านความเห็นชอบจากสนช.ที่เหลือไม่สามารถเป็นองค์ประชุมเพื่อเลือกประธานกกต.ได้ เพราะจะเหลือองค์ประชุมแค่ 4 คน ซึ่งไม่สามารถทำหน้าที่เลือกประธานกกต.และไม่อาจนำรายชื่อดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯได้ เพียงแต่บุคคลที่ได้ลาออกจากตำแหน่งต่างๆครบแล้วนั้นยังคงมีสถานะเป็นผู้ได้รับความเห็นชอบจากสนช.ตามเดิมต่อไป ทั้งนี้ หากมีการโปรดเกล้าฯกกต.ชุดใหม่แล้ว กกต.ชุดปัจจบันจะพ้นจากตำแหน่งทันที

ประธานสนช. กล่าวว่า ส่วนการสรรหากกต.อีก 2 คนนั้นจะทำหนังสือถึงประธานศาลฎีกาในฐานประธานกรรมการสรรหา เพื่อประชุมคณะกรรมการสรรหาอีกครั้ง ซึ่งกระบวนการสรรหาใหม่จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 วัน อย่างไรก็ตาม ในที่นี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าการสรรหากกต.ใหม่อีก 2 คน จะใช้กระบวนการเชิญบุคคลที่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญเข้ามารับการสรรหาตามมาตรา 12 ของกฎหมายกกต.หรือไม่ เพราะต้องรอให้มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาก่อน

“ส่วนตัวไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมผู้ผ่านการสรรหาจำนวน 2 คน ถึงไม่ได้รับความเห็นชอบจากสนช. เนื่องจากตนเองในฐานะหนึ่งในกรรมการสรรหา ก็ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมลับของสนช.ที่พิจารณาเรื่องดังกล่าว”นายพรเพชร กล่าว