posttoday

"สุวิทย์"เผยกระทรวงแห่งอนาคตแต่ยังไม่เคาะชื่อเป็นทางการ

07 กรกฎาคม 2561

"สุวิทย์"เผยกระทรวงใหม่ยังไม่ได้ตั้งชื่อเป็นทางการแจงโครงสร้างการบริหาร นัดเครือข่ายมหาวิทยาลัยวิจัยร่วมถกตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0

"สุวิทย์"เผยกระทรวงใหม่ยังไม่ได้ตั้งชื่อเป็นทางการแจงโครงสร้างการบริหาร นัดเครือข่ายมหาวิทยาลัยวิจัยร่วมถกตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2561 นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่3ก.ค. 2561ให้จัดตั้งกระทรวงใหม่ที่จะเป็นกระทรวงแห่งอนาคต รวมสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัย เพื่อตอบโจทย์ประเทศไทยที่ต้องขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ และนำไปสู่การต่อยอดในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ

ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปชื่อของกระทรวงใหม่ แต่จะต้องสื่อถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการอุดมศึกษา เป็นสำคัญ  แต่กระทรวงใหม่ที่จะตั้งขึ้นใหม่ จะมีกลไกบริหาร 2 ภารกิจ ได้แก่ 1. ระดับนโยบายและจัดสรรทุน  และ 2. ระดับปฏิบัติการ ซึ่งแบ่งภารกิจออกเป็น 2 ด้าน คือ ด้านการอุดมศึกษา  และ ด้านการวิจัยและนวัตกรรม ที่ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ รวมถึงการพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเชื่อมโยงการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา สถาบันวิจัย และภาคสังคม/ชุมชน

นายสุวิทย์ กล่าวว่า โครงสร้างของกระทรวงใหม่จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มงานใหญ่ๆ คือ 1. นโยบายและยุทธศาสตร์ 2.การวิจัยด้าน STI 3. การวิจัยด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ และ 4.การศึกษาระดับอุดมศึกษา  โดยกระทรวงใหม่จะใช้นวัตกรรมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนประเทศ และจะต้องมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมทำงานและลงทุนในงานวิจัยและพัฒนามากขึ้น มีการทำงานเชื่อมโยงกับส่วนงานวิจัยของกระทรวงต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของประเทศ ของภูมิภาค และของท้องถิ่น

“มหาวิทยาลัยวิจัยทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยอย่างใกล้ชิดผ่านกลไกกรรมการบริหารอย่างมืออาชีพ และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของภาคเศรษฐกิจและสังคมฐานนวัตกรรมด้วยกระทรวงใหม่นี้ เพื่อเดินไปสู่ “ประเทศไทย 4.0”  ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับอธิการบดีจากเครือข่ายมหาวิทยาลัยวิจัย 12 แห่งไปแล้ว” นายสุวิทย์ กล่าว