posttoday

โพลดุสิตเผยคนสนใจพรรคอนาคตใหม่มากกว่าประชาธิปัตย์

24 มิถุนายน 2561

ดุสิตโพลเผยผลสำรวจพรรคการเมืองที่อยู่ในความสนใจประชาชน "เพื่อไทย"ครองอันดับ1 ตามมาด้วยอนาคตใหม่ และ ประชาธิปัตย์

ดุสิตโพลเผยผลสำรวจพรรคการเมืองที่อยู่ในความสนใจประชาชน "เพื่อไทย"ครองอันดับ1 ตามมาด้วยอนาคตใหม่ และ ประชาธิปัตย์

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เผยแพร่ผลสำรวจเรื่อง คตวามสนใจของประชาชนที่มีต่อ “พรรคการเมืองเก่า” กับ “พรรคการเมืองใหม่” โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,105 คน ระหว่างวันที่ 19-23 มิ.ย.2561 สรุปผบได้ดังนี้

1. “3 อันดับพรรคการเมืองเก่า” ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ณ วันนี้ คือ อันดับ 1 เพื่อไทย 55.59% อันดับ 2 ประชาธิปัตย์ 39.89% อันดับ 3 ภูมิใจไทย 4.52%

2. “3 อันดับพรรคการเมืองใหม่” ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ณ วันนี้ คือ อันดับ 1 อนาคตใหม่ 57.51% อันดับ 2 พลังประชารัฐ 24.35% อันดับ 3 พลังชาติไทย 18.14%

3. เมื่อพิจารณาความสนใจในภาพรวมทั้ง “พรรคการเมืองเก่า” และ “พรรคการเมืองใหม่” “5 อันดับพรรคการเมือง” ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ณ วันนี้ คือ

อันดับ 1 เพื่อไทย 55.02% เพราะ ชื่นชอบ เป็นพรรคใหญ่ อยากให้เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยเหลือประชาชน มีนักการเมืองเก่ง มีชื่อเสียง ฯลฯ

อันดับ 2 อนาคตใหม่ 34.18% เพราะ เป็นพรรคใหม่ มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน มีนโยบายน่าสนใจ อยากเปิดโอกาสให้เข้ามาทำงาน ฯลฯ

อันดับ 3 ประชาธิปัตย์ 33.88% เพราะ เป็นพรรคเก่าแก่ ก่อตั้งมานาน มีประสบการณ์ ชื่นชอบการทำงาน มีผู้สมัครที่น่าสนใจ เลือกพรรคนี้มาโดยตลอด ฯลฯ

อันดับ 4 พลังประชารัฐ 17.39% เพราะ มีกระแสต่อเนื่อง เกี่ยวข้องกับรัฐบาลปัจจุบัน เป็นพรรคใหม่ มีนักการเมืองเข้ามาร่วมหลากหลาย ฯลฯ

อันดับ 5 ภูมิใจไทย 12.59% เพราะ ชอบการบริหารงานที่ผ่านมา เป็นพรรคเล็กที่มีบทบาทสำคัญ อยากรู้ความเคลื่อนไหว ฯลฯ

4. ส่วนกรณี ผู้สมัคร ส.ส. ที่สังกัด “พรรคการเมืองเก่า” กับ “พรรคการเมืองใหม่” มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนหรือไม่

อันดับ 1 มีผล 54.33% เพราะ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ชอบคนแต่ไม่ชอบพรรค นโยบายแต่ละพรรคแตกต่างกัน นอกจากจะดูที่ตัวบุคคลแล้วก็ดูว่าสังกัดพรรคที่ชอบด้วยหรือไม่ การเลือกสังกัดพรรคส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ฯลฯ

อันดับ 2 ไม่มีผล 45.67% เพราะ ดูที่ตัวบุคคล ประวัติ ประสบการณ์ ผลงานที่ผ่านมา ชอบเป็นการส่วนตัว ไม่พิจารณาว่าสังกัดพรรคใด หากเป็นคนดีอยู่พรรคใดก็ทำงานได้ ฯลฯ

5.สำหรับในการเลือก ส.ส. ระหว่าง “ตัวผู้สมัคร” กับ “พรรคที่สังกัด” ประชาชนให้ความสำคัญอะไรมากกว่ากัน

อันดับ 1 พอ ๆ กัน 41.63% เพราะ ต้องพิจารณาทั้งตัวผู้สมัครและพรรคที่สังกัดไปพร้อม ๆ กัน อยากได้ทั้งผู้สมัครและพรรคที่ดีมีคุณภาพ หากพรรคมีนโยบายที่ดี ก็จะส่งผลให้ผู้สมัครทำงานได้ดี มีผลงาน ฯลฯ

อันดับ 2 ตัวผู้สมัครมากกว่า 36.92% เพราะ เน้นที่ตัวผู้สมัคร อยากได้คนดี ทำงานเป็น มีผลงาน มีความคุ้นเคยกับคนในพื้นที่ พรรคการเมืองที่ดีต้องมีผู้สมัครที่ดี ฯลฯ

อันดับ 3 พรรคที่สังกัดมากกว่า 21.45% เพราะ พรรควางนโยบายของผู้สมัคร พรรคที่มีการบริหารที่ดีจะทำให้ผู้สมัครทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผู้สมัครต้องปฏิบัติตามแนวทางของพรรค พรรคที่เข้มแข็งสามารถให้การสนับสนุนผู้สมัครได้เต็มที่ ฯลฯ