posttoday

สนช.เดินหน้าเสนอกฎหมาย"ฟินเทค"

20 มิถุนายน 2561

สนช.ลุยเสนอกม.ฟินเทค คุ้มครองข้อมูลการเงินส่วนบุคคล รอรัฐบาลส่งกฎหมายเข้ามาประกบ วิปสนช. แจงกฎหมายภาษีมีรายละเอียดเยอะ จำเป็นต้องเลื่อนหลายครั้ง

สนช.ลุยเสนอกม.ฟินเทค คุ้มครองข้อมูลการเงินส่วนบุคคล รอรัฐบาลส่งกฎหมายเข้ามาประกบ วิปสนช. แจงกฎหมายภาษีมีรายละเอียดเยอะ จำเป็นต้องเลื่อนหลายครั้ง

นายยุทธนา ทัพเจริญ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปสนช.ได้รับร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการประกอบธุรกิจและการเข้าถึงบริการของประชนด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน ของนายวรพล โสคติยานุรักษ์ กับคณะเป็นผู้เสนอมาพิจารณา

นายยุทธนา กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้ กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจและการเข้าถึงบริการของประชาชนด้วยเทคโนโลยีการเงินที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กำหนดให้การทำธุรกรมบางประเภทในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ดำเนินการด้วยวิธีการและเทคโนโลยีอื่นใด ให้ถือว่าชอบด้วยกฎหมายและห้ามไม่ให้ปฏิเสธการรับฟังข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการพิจารณาของศาลทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา

นายยุทธนา กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังกำหนดห้ามไม่ให้ผู้ใดกระทำการใดๆกับข้อมูลซึ่งทำการปกปิดตัวตนของเจ้าของข้อมูลแล้ว เพื่อให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลใดบุคคลหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับข้อมูลนั้นได้ เว้นแต่ผู้นั้นเป็นผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายหรือกระทำโดยสุจริตและไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย และให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดำเนินการทางศาล เมื่อมีหลักฐานโดยชัดแจ้งว่าผู้ใดกระทำการหรือจะกระทำการใดๆ และไม่ให้เกิดความเสียหาย

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิปสนช. กล่าวว่า ตามขั้นตอนจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้รัฐบาลไปพิจารณาและเสนอร่างกฎหมายเข้ามาประกบร่างกฎหมายที่สนช.ได้ทำการเสนอกลับเข้ามายังสนช.อีกครั้ง และเมื่อรัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายดังกล่าวมายังสนช.แล้ว สนช.จะพิจารณาโดยอาศัยร่างกฎหมายที่รัฐบาลเสนอเข้ามาเป็นหลักต่อไป

นพ.เจตน์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน วิปสนช.ได้รับทราบถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญฉบับได้ขอขยายเวลาการพิจารณาหลายครั้ง เช่น ร่างกฎหมายทรัพยากรน้ำ รัฐวิสาหกิจ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งวิปสนช.ได้พิจารณาแล้วและเข้าใจว่าการพิจารณาร่างกฎหมายลักษณะดังกล่าวมีรายละเอียดค่อนข้างมากและจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบ จึงจำเป็นต้องขยายเวลาการทำงานเพิ่มเติม ซึ่งการจะขยายเวลาหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสนช.เป็นสำคัญ