รับฟ้อง"ทักษิณ"ผิด ม.157 ให้คลังฟื้นฟู ทีพีไอโดยไม่มีอำนาจ
ศาลฎีกาฯรับฟ้อง"ทักษิณ"ผิด ม.157 ให้กระทรวงการคลัง ฟื้นฟู ทีพีไอโดยไม่มีอำนาจ นัดพิจารณา 22 มิย.นี้
ศาลฎีกาฯรับฟ้อง"ทักษิณ"ผิด ม.157 ให้กระทรวงการคลัง ฟื้นฟู ทีพีไอโดยไม่มีอำนาจ นัดพิจารณา 22 มิย.นี้
เมื่อวันที่ 6มิ.ย. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ องค์คณะ 9 คน นัดฟังคำสั่งรับ-ไม่รับฟ้อง คดีหมายเลขดำ อม.40/2561 ที่คฯะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อายุ 69 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเป็นเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณีที่นายทักษิณ ให้ความเห็นชอบกระทรวงการคลัง สมัยที่ ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ เป็น รมว.คลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟู บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอซึ่งเป็นบริษัทเอกชน จึงเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวงการคลังไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารบริษัทเอกชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2546 มาตรา 10 เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ระบบราชการ
ทั้งนี้ หากวันนัดพิจารณาครั้งแรก นายทักษิณ ไม่มาศาล ในวันนัดดังกล่าวองค์คณะฯ ก็มีอำนาจพิจารณาออกหมายจับให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี และตาม วิ อม. มาตรา 28 วรรคสอง บัญญัติว่า หากออกหมายจับแล้ว 3 เดือน ยังไม่ได้ตัวจำเลย ศาลมีอำนาจพิจารณาได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย (ดำเนินกระบวนพิจารณาลับหลังจำเลย) แต่ไม่ตัดสิทธิที่จำเลยจะแต่งตั้งทนายความดำเนินการแทนตนได้ โดยคดีนี้ ถือเป็นสำนวนที่ 7 ที่ "นายทักษิณ" อดีตนายกฯ ถูกยื่นฟ้องนับจากพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองหลังการรัฐประหารปี 2549
สำหรับองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ประกอบด้วย นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย รองประธานศาลฎีกา , นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ รองประธานศาลฏีกา , นายวิชัย เอื้ออังคณากุล รองประธานศาลฏีกา , นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง รองประธานศาลฏีกา , นายพรเทพ อัมพรกลิ่นแก้ว รองประธานศาลฏีกา , นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา , นายพิศล พิรุณ ประธานแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา , นายสุนทร ทรงฤกษ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา และนายชัยยุทธ ศรีจำนงค์ ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา