posttoday

"ครูแขก"นปช.ฟ้องบิ๊กตำรวจหลังตกเป็นแพะ-ติดคุกฟรีคดีซุกระเบิด

28 พฤษภาคม 2561

ครูแขก นปช. ฟ้องกลับ "ศรีวราห์-3บิ๊กนายพล-ตำรวจ"รวม 12 นาย ปฏิบัติหน้าที่มิชอบแกล้งให้รับโทษ หลังศาลยกฟ้องคดีซุกระเบิดสมานเมตตาแมนชั่นนัดฟังคำสั่ง12มิ.ย.นี้

ครูแขก นปช. ฟ้องกลับ "ศรีวราห์-3บิ๊กนายพล-ตำรวจ"รวม 12 นาย ปฏิบัติหน้าที่มิชอบแกล้งให้รับโทษ หลังศาลยกฟ้องคดีซุกระเบิดสมานเมตตาแมนชั่นนัดฟังคำสั่ง12มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซ.สีคาม ถ.นครไชยศรี น.ส.อัมพร ใจก้อน หรือครูแขก อายุ 59 ปี ชาวเชียงใหม่ที่ใกล้ชิดผู้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งศาลอาญาและศาลจังหวัดมีนบุรี พิพากษายกฟ้องคดีครอบครองระเบิดที่ อาคารสมานเมตตาแมนชั่น บางบัวทอง และคดีระเบิด ที่บริเวณลานดินกว้าง ติด ถ.ราษฎร์อุทิศ ระหว่าง ซ.ราษฎร์อุทิศ 25-27 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ช่วงชุมนุมปี 2553-2557 เดินทางมาพร้อมกับ น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความ ยื่นฟ้อง คณะตำรวจซึ่งเคยดำเนินคดี รวม 12 นาย เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และข้อหาอื่นเกี่ยวกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มาตรา 172 , 173 , 174 , 181 , 200 ซึ่งการยื่นฟ้องนี้ฝ่ายโจทก์ ได้นำสำเนาคำพิพากษาคดีที่ศาลยกฟ้องทั้ง 2 สำนวนมาประกอบคำฟ้องคดีด้วย

โดยศาลรับเอกสารคำฟ้องไว้สารบบคดีหมายเลขดำ อท.121/2561 เพื่อตรวจคำฟ้องว่าถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วหรือไม่ ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับสำนวนคำฟ้องไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์หรือไม่ ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

น.ส.อัมพร กล่าวว่า วันนี้พร้อมแล้วที่จะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ 3 นาย และคณะตำรวจอีกรวม 12 นายซึ่งจริงๆ แล้วเราเป็นพี่น้องคนไทยด้วยไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ตำรวจหรือทหาร แต่ที่ฟ้องนี้สิ่งที่ต้องการอย่างเดียวคือ ความเป็นธรรม ความยุติธรรมกฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่มีบัญญัติไว้ด้วย

"ที่ผ่านมาหลังจากถูกดำเนินคดีกระทั่งศาลตัดสินยกฟ้องนั้น ก็ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำก็สูญเสียครอบครัว ที่ผ่านมาก็มี น.ส.เบญจรัตน์ ทนายความที่ช่วยดูแลคดีให้เพราะเราไม่มีเงินที่จ้างทนาย ซึ่งก่อนที่จะเข้ามาช่วยเรา ทนายความก็ไปสืบเสาะรวบรวมหลักฐานทุกอย่างมาจนแน่ชัดแล้วว่าเราไม่น่าจะกระทำผิดจึงยื่นมือมาช่วยเหลือ"น.ส.อัมพรกล่าว

เมื่อถามว่า การฟ้องนี้ก็มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ รอง ผบ.ตร. อย่าง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ด้วยหรือไม่ น.ส.อัมพร ตอบว่า "มีหมดค่ะ"

น.ส.อัมพร เล่าย้อนเหตุการณ์ที่นำมาสู่การฟ้องคดีว่า เมื่อตนถูกจับก็ถูกพาตัวไปแถลงข่าวที่ดีเอสไอ เรียกว่าประโคมข่าวจนเสียหาย และระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำครอบครัวก็รับผลกระทบ รวมทั้งต้องสูญเสียทรัพย์เมื่อไม่มีใครดูแลบ้าน รู้สึกเสียใจมากต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะจะต้องเสาะหาความจริงให้มีหลักฐานให้ยึดมั่นมัดตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาชัดเจนก่อน ก่อนที่จะมาจับ แต่มาในวันนี้เชื่อมั่นว่ากระบวนการศาลทั้งศาลอาญา รัชดาฯ ศาลมีนบุรี ที่ได้เห็นว่าไม่ได้กระทำความผิดจึงยกฟ้องไปทั้ง 2 คดี

"ที่ฟ้องกลับก็เพื่อจะไม่ให้มีเยี่ยงอย่าง การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนคนไทยใดๆ อย่าให้มาเจอแบบครูแขก ซึ่งเหมือนถูกจับผิด จับแพะ ตรงนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับพี่น้องและลูกหลานคนไทยใดๆ เพราะเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องไปนอนเรือนจำฯ และตรงนี้ดินฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเจ้าหน้าที่ข้าราชการไม่ว่าจะทหาร หรือตำรวจ ถ้าลูกหลานคุณเจอแบบครูแขกบ้างแล้วคุณจะเข้าใจความเจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกิน"น.ส.อัมพรกล่าว

น.ส.อัมพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาระหว่างถูกดำเนินคดีต้องอยู่ในเรือนจำนาน 1 ปี 7 วัน ซึ่งหลังจากที่ 2 ศาลตัดสินยกฟ้องคดี 2 สำนวน ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาเลย โดยในส่วนของหน่วยงานรัฐกระทรวงยุติธรรม ตนได้ยื่นหนังสือไปแล้วในการพิจารณาค่าชดเชยระหว่างถูกจองจำ 1 ปี 7 วัน ยังโชคดีที่ตนเป็นผู้หญิงที่แกร่งหน่อยซึ่งคิดว่าไม่ผิดก็ขอต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะตำรวจที่ยื่นฟ้องนั้น มีการระบุถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล และนายตำรวจยศระดับ พล.ต.ต. อีก 3 นาย กับนายตำรวจสัญญาบัตรยศ พ.ต.อ. และ พ.ต.ท. ใน บช.น. , บก.น.3 , กองปราบปราม รวมทั้งนายตำรวจใน สน.ประเวศ และ สน.มีนบุรีด้วย