posttoday

พิชัย ชี้ การแข่งขันไทยทรุดหนัก

25 พฤษภาคม 2561

“พิชัย” ชี้ ความสามารถแข่งขันของไทยทรุดหนัก หล่นไปอันดับ 30 เท่ากับหลังปฏิวัติ สาเหตุหลัก ความไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล การใช้งบประมาณขาดดุล

“พิชัย” ชี้ ความสามารถแข่งขันของไทยทรุดหนัก หล่นไปอันดับ 30 เท่ากับหลังปฏิวัติ สาเหตุหลัก ความไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล การใช้งบประมาณขาดดุล

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า จากการจัดอันดับความสามารถแข่งขันของไทยโดยสถาบัน IMD ล่าสุด ประเทศไทยถูกจัดอันดับลดลง 3 อันดับ จาก อันดับที่ 27 ตกไปอยู่ที่ 30 หรือ เท่ากับ อันดับหลังการปฏิวัติ สาเหตุหลักคือ ความไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล ซึ่งคงเห็นได้ชัดจากผลงานของรัฐบาลและแนวคิดของผู้นำ อีกทั้ง การขาดดุลงบประมาณ ที่อาจจะมีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งในโครงการประชารัฐ และ ไทยนิยม ไม่ได้เกี่ยวกับการใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานตามที่รัฐบาลแก้ตัว เพราะการเบิกเงินปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานยังไม่ได้ไปถึงไหน และ ปัญหาความล้าหลังของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานยังเป็นปัญหาหลักที่ ไอเอ็มดีชี้ว่าเป็นสาเหตุทำให้ความสามารถแข่งขันของไทยลดลง และที่สำคัญ ไอเอ็มดี ได้แนะนำให้ไทยรับรู้การเปลี่ยนแปลงของโลก และ เร่งปรับตัว เพราะการรับรู้และปรับตัวของไทยต่ำมาก ซึ่งตนได้เตือนรัฐบาลมาตลอด และจะเป็นสาเหตุของวิกฤตกบต้มได้เพราะมีความรู้ไม่เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ศึกษาการวิเคราะห์และคำแนะนำของไอเอ็มดีนี้อย่างละเอียด ซึ่งหากจำกันได้ พล.อ.ประยุทธ์ เคยขึ้นพูดในเวทีการประชุมนานาชาติในปี 2559  อ้างถึง ไอเอ็มดี จัดอันดับที่ดีขึ้นในขณะนั้น และยังถามในที่ประชุมนานาชาติว่า “พิชัย จบอะไรมา? ถึงมาวิจารณ์เศรษฐกิจ” ซึ่งตนเองจบเศรษฐศาสตร์ จุฬา และ ปริญญาโท เอ็นบีเอ ที่จุฬา ก็อยากขอให้พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่ได้มีพื้นฐานการศึกษาทางเศรษฐกิจได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของโลกมากๆ จะได้เข้าใจและพัฒนาประเทศในทางที่ถูกต้อง ประชาชนจะได้ไม่ลำบากเหมือนในปัจจุบัน

ทั้งนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันแม้จะดูว่าสูงเมื่อเทียบกับอดีตที่เศรษฐกิจทรุดต่ำมาตลอด 4 ปี ของการปฏิวัติ แต่ก็ยังไม่ได้โตมากนัก เพราะประเทศเพื่อนบ้านเราเศรษฐกิจโตสูงมาตลอดหลายปีนี้  เปรียบได้กับคนป่วยที่พึ่งจะเริ่มหัดเดินได้แต่ยังวิ่งไม่ได้ ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านวิ่งมาตลอด 4 ปีแล้ว จึงอยากให้เข้าใจและอย่าดีใจมากเกินจริง โดยนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยจะมุ่งเน้นการปรับตัวของไทยเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อก้าวทันและพัฒนาให้เท่าเทียมหรือสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน