posttoday

“ภาคเอกชน” ติง พรบ.ภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง อ้างกระทบลงทุน

24 พฤษภาคม 2561

“ภาคเอกชน” ยื่นหนังสือ สนช. ติง พรบ.ภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง อ้างกระทบลงทุน บั่นทอนอำนาจซื้อ เสนอให้เอกชนเข้าไปร่วมพิจารณากฎหมาย

“ภาคเอกชน” ยื่นหนังสือ สนช.  ติง พรบ.ภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง อ้างกระทบลงทุน บั่นทอนอำนาจซื้อ เสนอให้เอกชนเข้าไปร่วมพิจารณากฎหมาย

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้รับมอบหนังสือจากตัวแทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ที่ยื่นข้อเสนอและความคิดเห็นต่อร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสนช. โดยมีเนื้อหาดังนี้

1.ร่างพ.ร.บ.ยังขาดความชัดเจนและปัญหาในการตีความ เมื่อนำไปปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ ในแต่ละสาขาธุรกิจอาจมีลักษณะไม่เหมือนกัน ก่อให้เกิดการใช้ดุลยพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย

2.หลักการจัดเก็บภาษีที่ดีจะต้องมีความเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับ จากภาคประชาชนและภาคธุรกิจตลอดจนสามารถนำปฏิบัติได้โดยไม่เป็นภาระต่อผู้ถูกจัดเก็บมากเกินไป และการจัดเก็บภาษีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็นตามหลักในรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 มาตรา 77 ดังนั้น การกำหนดอัตราภาษี ควรมีความชัดเจนและแน่นอน โดยกำหนดเป็นอัตราคงที่อัตราเดียว

3.การกำหนดอัตราภาษีเป็นเพดานสูงโดยภาครัฐจะประกาศใช้อัตราเรียกเก็บจริงในอนาคตนั้น จะส่งผลเสียต่อการลงทุน เนื่องจากทำให้ไม่เกิดความไม่แน่นอนและไม่สามารถวางแผนลงทุนได้

4.การเก็บภาษีในครั้งนี้ ในระยะสั้นเป็นการเพิ่มภาระทางตรงให้กับผู้เสียภาษี โดยส่งผลต่อผู้เสียภาษีทั้งประชาชนผู้อยู่อาศัยและผู้ครอบครองที่ดิน ตลอดจนธุรกิจเอสเอ็มอี และธุรกิจขนาดใหญ่ โดยคาดว่าประชาชนจะมีภาระภาษีจ่ายทั้งประเทศอยู่ในวงเงินรวม  50,000-100,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นการบั่นทอนอำนาจซื้อของปภาคประชาชนและธุรกิจ และทำให้ภาคเอกชนขาดความมั่นใจต่อการลงทุนในอนาคต

ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจขยายตัวลดลงจากเดิม 0.3%-0.7% ต่อปี นอกจากนี้แนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีในแต่ละพื้นที่ยังไม่มีความชัดเจน ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการบริโภคและการลงทุนทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

5.เพื่อให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ดีและสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ขอเสนอให้แต่งตั้งคณะทำงานโดยมีผู้แทนจากภาคเอกชน

ด้าน นายพรเพชร กล่าวว่า สนช.จะรับข้อเสนอดังกล่าวเพื่อนำไปให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวดำเนินการพิจารณาต่อไป