เปิดใจ สมชัย ศรีสุทธิยากร "ถ้าจะให้ผมเปลี่ยนเพื่อให้อยู่ต่อได้ ผมคงไม่เปลี่ยน"
คุยกับ "สมชัย ศรีสุทธิยากร" กับความในใจและเส้นทางชีวิตหลังหมดโอกาสหวนกลับสำนักงาน กกต. ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
คุยกับ "สมชัย ศรีสุทธิยากร" กับความในใจและเส้นทางชีวิตหลังหมดโอกาสหวนกลับสำนักงาน กกต. ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
****************************
โดย...ทีมข่าวโพสต์ทูเดย์ออนไลน์
รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจมาตรา 44 สั่งเด้งพ้นจากตำแหน่ง ถูกจับตามองอีกครั้งในช่วงสถานการณ์การเมืองกำลังคุกรุ่น เมื่อประกาศถอนตัวลงชิงเก้าอี้เลขาธิการ กกต. หลังได้รับแจ้งว่าขาดคุณสมบัติ นี่ทำให้หลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นการปิดโอกาสที่ สมชัย จะได้กลับ กกต.อีกหากยังอยู่ในยุครัฐบาล บิ๊กตู่
รศ.สมชัย เปิดใจว่า หลังได้รับแจ้งว่าขาดคุณสมบัติลงสมัครเลขาธิการ กกต. ก็พร้อมรับและไม่คิดอุทธรณ์โต้แย้ง เพราะไม่ต้องการเป็นคู่กรณีกับ กกต. และอาจทำให้การสรรหาล่าช้าออกไป ส่วนเหตุผลต่างๆที่เกิดขึ้น คิดว่าผู้มีอำนาจอาจไม่อยากให้ตนอยู่ในสำนักงาน กกต. เห็นได้ตั้งแต่มีการใช้มาตรา 44
"กรณีถูก ม.44 สั่งพ้นจากตำแหน่งนั้น ไม่เคยรู้สึกท้อแท้ เสียใจ หรือถือโทษโกรธ และพร้อมให้อภัยทุกสิ่ง เพราะคิดว่าตลอด 4 ปีในตำแหน่ง กกต. ได้ทำงานทุกอย่างเต็มที่บนหลักความถูกต้องมาตลอด เพราะส่วนตัวไม่สนว่าการทำงานต้องตรงกับความต้องการของผู้มีอำนาจในบ้านเมืองหรือไม่"
ชีวิตหลังสวมหัวโขนตอนนี้ รศ.สมชัย เผยว่า ไม่ได้ดำรงตำแหน่งอะไร ขออยู่เงียบๆนิ่งๆ และทำสิ่งที่ชอบก่อนนั่นคือ การเขียนหนังสือ ซึ่งหลังพ้นตำแหน่งก็เขียนพ็อกเก็ตบุ๊กจบไป 1 เล่มชื่อ "กกต ม.44" เป็นเรื่องราวเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มทำงาน กกต.เมื่อ 4 ปีที่แล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงวันที่ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง และตอนนี้กำลังเขียนหนังสือทางวิชาการเล่นใหม่ เป็นตำราวิชาการบริหารเชิงกลยุทธ์ในระบบราชการไทย
รศ.สมชัย เผยว่า ชีวิตอนาคตตอนนี้ยังไม่ได้วางแผน แต่คิดว่างานหลักคงทำด้านวิชาการ ส่วนงานการเมืองต้องดูว่ามีอะไรที่สามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์เพื่อบ้านเมืองได้ เช่น ผู้วิจารณ์การเมือง ผู้ตรวจสอบการเมือง หรือแม้แต่เป็นผู้เล่นการเมือง
อดีต กกต. เผยว่า หลังพ้นตำแหน่งมีพรรคและกลุ่มการเมืองทาบทามเยอะมาก (หัวเราะ) แต่ได้ปฏิเสธไปเพราะสถานการณ์การเมืองอนาคตยังไม่แน่นอน แต่คิดว่าถ้าลงเล่นการเมืองคงประเมินความพร้อมทุกด้านอีกครั้ง ทั้งร่างกาย สติปัญญา ทุนทรัพย์ และก็ต้องไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน
เมื่อถามว่ามองการเมืองอนาคตอย่างไร รศ.สมชัย ปฏิเสธที่จะวิพากษ์วิจารณ์ เพราะขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาเนื่องจากสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
รศ.สมชัย ทิ้งท้ายว่า แต่ถึงอย่างไรการทำงานส่วนตัวจะยึดผลประโยชน์บ้านเมืองเป็นหลัก อะไรที่เป็นประโยชน์ก็พร้อมทำ แต่ถ้าอะไรไม่ถูกต้องจะไม่ทำ “ถ้าจะให้ผมเปลี่ยนเพื่อให้อยู่ต่อได้ ผมคงไม่เปลี่ยน”
