posttoday

"ไทยเป็นกลาง" ไม่ยุ่งสถานการณ์ซีเรีย บิ๊กป้อมสั่งจับตาใกล้ชิด

14 เมษายน 2561

กลาโหมสั่งเกาะติดสถานการณ์สหรัฐและชาติพันธมิตรถล่มซีเรีย ย้ำไทยเป็นกลาง คาดไม่เกิดสงครามใหญ่หรือสงครามเย็น

กลาโหมสั่งเกาะติดสถานการณ์สหรัฐและชาติพันธมิตรถล่มซีเรีย ย้ำไทยเป็นกลาง คาดไม่เกิดสงครามใหญ่หรือสงครามเย็น

เมื่อวันที่ 14 เม.ย.  นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ที่กองทัพสหรัฐและชาติพันธมิตรปฏิบัติการโจมตีทางทหารกับซีเรียว่า  ได้ตั้งเจ้าหน้าที่ชุดติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวด้านความมั่นคงเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในเรื่องความมั่นคงทั่วไป โดยทางไทยมีข้อมูลของตนเอง พร้อมรับข้อมูลจากมิตรประเทศ เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าจะเกิดผลกระทบต่อคนไทยหรือไม่ รวมถึงการประเมินแนวโน้มของความรุนแรงเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระยะ

โดยในความรุนแรงขั้นต้น ยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดการปะทุความรุนแรงมากขึ้น เพราะในประเทศซีเรียมีกองกำลังของทหารสหรัฐอเมริกาประมาณ 2,000-3,000 คน และคงใช้วิธีการโจมตีทางอากาศโดยทิ้งระเบิดไปใกล้กับจุดเก็บอาวุธเคมี ซึ่งที่มีความเป็นห่วงก็คือกรุงดามัสกัส ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียนั้น ตนคิดว่ายังไม่มี แต่ทั้งนี้เราต้องไม่ประมาทและต้องเฝ้าระวังพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะก็ทราบกันดีว่า ประเทศซีเรียได้รับการสนับสนุนจากประเทศรัสเซีย อีกทั้งประเทศจีนก็มีความใกล้ชิดกับประเทศรัสเซีย

อย่างไรก็ตามนายปณิธาน กล่าวว่า ต้องติดตามท่าทีของสหประชาชาติว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดสงครามใหญ่ หรือสงครามเย็นหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่เป็นเช่นนั้น แต่อาจมีความตึงเครียดของสถานการณ์เกิดขึ้นตามมาแน่นอน แต่อาจจะมีผลกระทบฝั่งยุโรปตะวันออกมากกว่าฝั่งเอเชีย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบใดต่อประเทศไทย เนื่องจากจุดยืนของไทยที่ผ่านมาเป็นกลางมาโดยตลอด

ทั้งนี้สำหรับการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกาที่สำนักงานเพนตากอนนั้น พล.อ.ประวิตร ยังมีกำหนดการเดินทางไปร่วมประชุมในระหว่างวันที่ 21-26 เม.ย.นี้ยังคงเป็นไปตามเดิมและยังไม่มีการประสานขอยกเลิกมายังกระทรวงกลาโหมของไทย