"อนาคตใหม่"ยื่น คสช.ขอจัดประชุมพรรค จี้ปลดล็อก
พรรคอนาคตใหม่ ยื่น คสช.ขอจัดประชุมพรรค "ปิยบุตร" จี้ปลดล็อก ยันอุดมการณ์ไม่หนุนนายกฯ คนนอก
พรรคอนาคตใหม่ ยื่น คสช.ขอจัดประชุมพรรค "ปิยบุตร" จี้ปลดล็อก ยันอุดมการณ์ไม่หนุนนายกฯ คนนอก
เมื่อวันที่ 9เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ขอจดจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ เดินทางเข้ายื่นหนังสือขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อจัดประชุมพรรค และทวงถามความคืบหน้าในการตอบรับการยื่นจดจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่จากทางสำนักงาน กกต.
นายปิยบุตร กล่าวว่า เนื่องจากทางพรรคยังไม่ได้รับหนังสือรับแจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง ( แบบพ.ก. 7/2) จากกกต. ทั้งที่ยื่นขอจดแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคไปแล้ว โดยจะครบเวลา 30 วันของการตอบรับการยื่นจดจัดตั้งพรรคตามกฎหมาย ในวันที่ 15 เม.ย.นี้ แต่วันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการ จึงเกรงว่าจะติดช่วงวันหยุดสงกรานต์จะทำให้ทุกอย่างล่าช้าออกไป แต่ในขณะนี้ทราบว่าคสช.ได้มีการอนุญาตให้ 13 พรรคการเมืองที่ขอจัดตั้งใหม่ ดำเนินการจัดประชุมได้แล้ว
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ทางพรรคได้การออกแถลงการณ์เรียกร้องไปยังคสช. 3 ข้อ คือ 1.อยากให้คสช.ยกเลิกข้อ 4 และข้อ 8 ของคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53/2560 และอนุญาตให้พรรคอนาคตใหม่ได้จัดประชุมในวันที่ 27 พ.ค. ตามที่ได้ร้องขอ โดยหวังว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการมเมือง พ.ศ. 2560 กำหนดว่าภายใน 6 เดือนหลังจดจัดตั้งพรรค ต้องจดทะเบียนพรรคให้เสร็จสมบูรณ์ หมายความว่าขณะนี้เหลือเวลาแค่ 5 เดือนเศษ ที่ต้องหาสมาชิกพรรคให้ครบ 500 คน ระดมทุนประเดิมจากสมาชิกให้ได้ 1 ล้านบาท จัดเตรียมนโยบายข้อบังคับพรรค รวมถึงการเลือกผู้บริหารพรรค ดังนั้นคสช.จึงต้องรีบอนุมัติให้พรรคได้ประชุมโดยเร็ว เพราะตามกฎหมายไม่มีกรอบเวลากำหนดว่าคสช.จะต้องอนุญาตเมื่อใด ยิ่งช้ายิ่งเกิดความเสียหายกับพรรค และหากต้องการทำตามที่นายกฯเคยพูดว่าต้องการสนับสนุนคนรุ่นใหม่เข้าสู่การเมืองก็ต้องยิ่งให้มีการประชุมพรรคโดยเร็ว
2.ขอให้คสช.ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคเคลื่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ เพราะหากการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมปก็จะเหลือเวลาอีกเพียง 10 เดือน ซึ่งถือว่าสั้นมากสำหรับการทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ดังนั้นเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม สะท้อนเจตน์จำนงของประชาชน คสช.จะต้องปลดล็อคประกาศและคำสั่งทั้งหลายที่เป็นอุปสรรคต่อพรรคการเมืองทั้งหมด
และ 3. ขอให้ คสช.ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ที่มีการห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน และให้ยกเลิกการดำเนินคดีทางกฎหมายกับประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการเลือกตั้ง แต่ไม่ต้องกังวลใจว่าจะเกิดความขัดแย้งเพราะระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ช่วยขจัดความขัดแย้งทางความคิดได้อย่างสันติที่สุด ด้วยการที่เปิดให้ทุกฝ่ายได้แสดงออก
นายปิยบุตรกล่าว ถ้าเปิดเสรีภาพให้พรรคการเมืองรณรงค์มีการแลกเปลี่ยนพูดจากัน จะสร้างบรรยากาศที่ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศเห็นถึงเส้นทางไปสู่โรดแมปว่าจะเกิดขึ้นจริง ดังนั้นการยกเลิกประกาศและคำสั่งที่เป็นอุปสรรค และยุติการดำเนินการคดีจะเป็นการสร้างบรรยากาศในการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลทหาร สู่ประชาธิปไตยอย่างสันติ แต่หากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นยังมีการจำกัดเสรีภาพของพรรคการเมืองและประชาชนก็จะไม่ใช่การเลือกตั้งที่ได้มาตรฐานของรัฐเสรีประชาธิปไตย แต่เป็นเพียงพิธีกรรมที่ใช้ประกอบเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการสืบทอดอำนาจหรือไม่ อย่างไรก็ตามหวังว่าคสช.ในฐานะผู้มีอำนาจจะไม่มีการเลือกปฏิบัติระหว่างพรรคการเมืองที่ประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี กับพรรคที่ไม่ได้ประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายก ซึ่งพรรคยังคงยืนยันจะไม่สนับสนุนคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี