posttoday

นายกฯประชุมเต็มคณะอนุลุ่มแม่น้ำโขง6ประเทศ

31 มีนาคม 2561

นายกรัฐมนตรีร่วมการประชุมเต็มคณะกับผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 6

นายกรัฐมนตรีร่วมการประชุมเต็มคณะกับผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 6

เมื่อวันที่ 31มี.ค.61 เวลา 10.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมเต็มคณะ (Plenary) ของการประชุมสุดยอดผู้น้าแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุลุ่มแม่น้้าโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 6 ในหัวข้อ “การใช้ประโยชน์ของความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อบูรณาการให้เกิดความมั่งคั่งร่วมกัน ในรอบ 25 ปี ที่ผ่านมา” (Leveraging on 25 Years of Cooperation, and Building a Sustainable, Integrated, and Prosperous GMS)ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติเวียดนาม

นายกฯประชุมเต็มคณะอนุลุ่มแม่น้ำโขง6ประเทศ

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลง เน้นย้้าถึงบทบาทและความสำเร็จของ GMS ที่มีมาอย่างต่อเนื่องถึง 25 ปี เพราะวิสัยทัศน์ 3C ของ GMS ที่ได้วางไว้ และเพราะการท้างานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา GMS ประสบความส้าเร็จส้าคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อมุ่งเชื่อมโยงประชาชน 340 ล้านคน ของทั้ง 6 ประเทศรวมทั้งบูรณาการการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ (Economic Corridor) เพื่อยกระดับรายได้ ลดความยากจน และลดความเหลื่อมล้้าของประชาชน

และในโอกาสเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแผนการทำงานที่ให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น ได้แก่ การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งให้มีคุณภาพเพื่อการเชื่อมโยงอย่างมีคุณภาพไร้รอยต่อ(connectivity) ไทยได้เร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งไปยังประตูเชื่อมโยง (Gateway) ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการพัฒนาเมืองในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงผ่านประเทศไทยไปถึงโครงข่ายที่ส้าคัญภายใต้กรอบความร่วมมือ IMT-GT ทางตอนใต้ของประเทศไทย

นายกฯประชุมเต็มคณะอนุลุ่มแม่น้ำโขง6ประเทศ

เร่งพัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อมุ่งสู่อนุภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง(competitiveness)ไทยก้าลังเร่งพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันทางเศรษฐกิจผ่านการพัฒนาเชิงพื้นที่ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลักดันให้ไทยเข้าสู่ยุค 4.0 อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกภายใต้โคงการ EEC ให้สามารถสนับสนุนการเชื่อมโยงการผลิตกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคและโลกจึงขอให้ประเทศสมาชิกแผนงาน GMS ยึดหลัก 3 M ได้แก่ ความไว้เนื่อเชื่อใจ(Mutual Trust) การเคารพซึ่งกันและกัน(Mutual Respect) และการมีผลประโยชน์ร่วมกัน(Mutual Benefit)เราต้องผลักดันให้GMS เป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน มีความตั้งใจ และยั่งยืน (Community)การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยเฉพาะด้านทักษะและสุขภาพ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกโดยไทยมีนโยบาย ประเทศไทย 4.0 โดยจะเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ควบคู่ไปกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจน การจะมุ่งสู่ประชาคม GMS ที่มั่งคั่ง ยั่งยืน จะต้องมีการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมซึ่งในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณธนาคารพัฒนาเอเชียที่ได้สนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาที่ สำคัญของแผนงานความร่วมมือของ GMS ตลอดระยะเวลากว่า 25 ปีที่ผ่านมา