posttoday

เหม็นเน่าที่จอดรถ

13 ตุลาคม 2553

กลิ่นเหม็นเน่าในโครงการที่จอดรถสุวรรณภูมิ เป็นสิ่งที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้อีก

กลิ่นเหม็นเน่าในโครงการที่จอดรถสุวรรณภูมิ เป็นสิ่งที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้อีก

เพราะโครงการดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล กับการท่องเที่ยว นับตั้งแต่มีกองกำลังของ เสธ. พร้อมอาวุธมาปิดที่จอดรถ และยึดเงินที่เก็บเป็นค่าที่จอดรถ

จากนั้นมาก็เหมือนกับช้างเน่าทั้งโขลง

ข้อมูลต่างๆ ก็ไหลเท โดยเฉพาะประเด็นการทุจริต สินบนคาปากที่หนองงูเห่า

เงินใต้โต๊ะบนโต๊ะสะพัด

งานนี้มีผู้เสียหายเปิดตัวแถลงข่าวอย่างโจ่งแจ้ง แจงพฤติกรรมอำพรางชัดเจน

นับตั้งแต่มีนักการเมืองเป็นนายหน้า ติดต่อหาคนมาทำกิจการที่จอดรถ การเกิดรายการหักเหลี่ยมปลอมแปลงลายมือชื่อเพื่อยึดสัมปทาน การปรากฏตัวของอดีตรัฐมนตรี 3 คน มาเจรจาเรียกรับสินบน 100 ล้านบาท

หรือการที่นำสัมปทานไปหลอกขายบุคคลอื่นเพิ่มเติม และตบท้ายที่ขาดไม่ได้คือการปรากฏตัวของ เสธ. ผู้กว้างขวาง 2 กลุ่ม พร้อมกำลังอาวุธครบมือเข้ามาเคลียร์ปัญหา ฯลฯ

เหล่านี้ มีการแถลง พูดจาเป็นหลักฐาน

ตัวจริง เสียงจริง คนที่เดือดร้อน เปิดตัว เปิดหน้าชกจะแจ้ง

และอาจพูดได้ว่าไม่มีครั้งใดที่เอกชนสวมวิญญาณหมูไม่กลัวน้ำร้อน แฉกันเหมือนที่เห็น

แล้วงานนี้ใครต้องรับผิดชอบ ใครต้องสะสางความสะอาดของตัวเองบ้าง ?

ผู้บริหารการท่าฯ อดีตนักการเมือง หรือนักการเมืองปัจจุบันมีส่วนพัวพันกับสัมปทานที่จอดรถสุวรรณภูมิฯ หรือเปล่า ?

ถึงได้บอกแล้วว่า นายกฯ เงียบไม่ได้ หรือจะทำใจเย็นรอเรียกประชุมคณะกรรมการต่างๆ ก็คงไม่ได้อีกเช่นกัน

หากอภิสิทธิ์ยังคงยึดมั่นในกฎเหล็กที่ตัวเองวางไว้ และยังยึดกับคำเดิมที่เคยพูดว่า ความชอบธรรมต้องมาก่อน แม้กระทั่งต้องนำหน้าเสถียรภาพทางการเมือง

อภิสิทธิ์ต้องทำความจริงให้กระจ่าง สั่งการอย่างตรงไปตรงมา

ไม่เช่นนั้น คงมีแค่สมมติฐานเดียวที่เหลืออยู่

นั่นคือนายกฯ คนนี้ชินแล้วกับสารพัดกลิ่นยี้อันสุนทรี!!!