posttoday

"เอนก"แนะพรรคการเมืองเข้าบริหารประเทศต้องคำนึงปฏิรูป 11 ด้าน

28 มีนาคม 2561

ประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง แนะ พรรคการเมืองเข้าบริหารประเทศต้องคำนึงปฏิรูป 11 ด้าน

ประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง แนะ พรรคการเมืองเข้าบริหารประเทศต้องคำนึงปฏิรูป 11 ด้าน

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศ กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง  “พรรคการเมืองกับการปฏิรูปประเทศ” ในการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจกรรมแก่พรรคการเมือง จัดโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า พรรคการเมืองกับการปฏิรูปประเทศนั้น ไม่ว่าฤดูกาลทางสังคมจะเป็นอย่างไร ก็ต้องมีพรรคการเมือง เพราะพรรคการเมืองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยที่มีมายาวนานมากแล้ว

“แม้จะไม่ยาวนานเท่าบุพเพสันนิวาสที่นานกว่าก็ตาม แต่ก็มีความสำคัญมากสำหรับบทบาทของประเทศไทย สมัยผมเข้ามาเป็นประธานพัฒนาพรรคการเมืองฯ 1 ปีที่ผ่านมา ท่านที่มาจากพรรคการเมืองหลายๆท่าน ขอขอบคุณพรรคการเมืองที่มาร่วมฟังแลกเปลี่ยนกัน เพราะวันนี้ที่เรามาเพื่อถกกันว่าจะต้องทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่สำคัญอย่างยิ่งของประเทศให้ได้อย่างไรบ้าง ทำให้สมาชิกพรรคมีความสนใจรอบรู้ในการบริหารประเทศชาติมากยิ่งขึ้นได้อย่างไรบ้าง นี่เป็นสิ่งสำคัญเป็นหน้าที่ ภารกิจของพรรคการเมือง”นายเอนก ระบุ

ทั้งนี้ อยากให้พรรคการเมืองเป็นสถาบัน จึงตั้งชื่อว่า “คณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญ 2560” ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก กกต. และต่อไปนี้ จะมีการเปิดอบรมในหลายเรื่องเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองอีกต่อไป และส่วนตัวยินดีหากพรรคการเมืองทั้งหลายจะส่งตัวแทนพรรคเข้าร่วมอบรมในแต่ละหลักสูตรดังกล่าว

“เรามีแผนการปฏิรูปการเมือง 5 ประเด็น ผ่าน คณะกรรมการฯแล้ว ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว และต่อไปจะผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีผลบังคับใช้ แต่จะไม่มีบทลงโทษอะไรรุนแรง เพราะในกฎหมายที่มีการบังคับใช้ในขณะนี้ เรื่องการลงโทษสำหรับพวกท่าน ก็มีมากมายรุนแรงอยู่แล้ว บ้านเมืองเราบริหารประเทศด้วยภารกิจ ต่อมามีเรื่องของนโยบายเข้ามา ซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียด เวลาเราหาเสียงเลือกตั้ง เราก็ประกาศนโยบายที่ชิดและอิงกับประชาชนมากที่สุด”นายเอนก กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการปฏิรูป ต้องแก้ปัญหาหลักสำคัญของประเทศเพื่อให้ปัญหาที่ไม่คืบหน้าได้มีโอกาสคืบหน้าครั้งใหญ่ การปฏิรูปเป็นเรื่องระยะยาว ประเทศจะอยู่ได้ไม่ใช่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ต้องแก้ปัญหาระยะยาว พรรคการเมืองทั้งหลายที่เข้ามาเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ต้องคำนึงเรื่องการปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน

นอกจากนี้ ยังมียุทธศาสตร์ชาติที่จะต้องผ่าไป แต่พวกท่านจะปรับปรุงแก้ไขอะไรในอนาคตก็ย่อมได้ ทั้งนี้ การทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ต้องคิดถึงชาติบ้านเมือง ต้องมีกลไกในการทำงาน ระยะสั้น กลาง ยาว ถ้าพรรคการเมืองมีการศึกษาเรื่องนี้ดีๆ จะสามารถเป็นกลไกให้มีการพัฒนาได้อีก

ส่วนเรื่องวัฒนธรรมทางการเมืองนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ต้องสนใจและสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง รวมทั้ง สนับสนุนวัฒนธรรมประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนหันมาสนใจ เข้าใจประชาธิปไตยมากขึ้น ต้องทำให้สมาชิกพรรคอยากที่จะอาสาเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น

ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญต้องทำให้ประชาชนมีความเป็นพลเมืองที่ดี และเป็นพสกนิกรที่ดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย ถ้าประชาธิปไตยเรามีธรรมาธิปไตยด้วย เราจะยิ่งได้รับการสนับสนุนในวงที่กว้างขวางขึ้น พรรคการเมืองทั้งหลายต้องช่วยการคิด ช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุขและปรองดองมากขึ้น โดยไม่เกิดสภาวะที่ขัดแย้งแตกขาดกัน

นายอเนก กล่าวต่อว่า ทำอย่างไรถึงแม้จะมีความขัดแย้งได้ แต่ความขัดแย้งนั้นต้องไม่นำไปสู่ประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง ให้เป็นความขัดแย้งนั้น เป็นเรื่องที่สามารถถกเถียง รอมชอมกันได้ หารือกันได้อย่างไร นอกจากนี้ การทำให้การเลือกตั้งสุจริต ยุติธรรมขึ้น สะท้อนความต้องการของประชาชนมากขึ้น สามารถตรวจสอบ โดยที่พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่ดี มีจิตใจอาสามาทำงาน

“ผมคิดว่าพรรคการเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งขึ้น นี่คือภาพรวมทั้งหมด ในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง คงมีหลายอย่างที่ท่านไม่มีความสุขกับหลายสิ่งในกฎหมายรัฐธรรมนูญนี้เท่าไหร่นัก นี่คือเป็นกลไกสังคม ที่ท่านต้องยอมรับ แต่อะไรที่ท่านรับไม่ได้ หรือไม่เอาด้วย เมื่อท่านได้มีโอกาสเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วท่านก็แก้ไขเอา สุดท้ายขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ” ประธานคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองฯ ระบุ