ปชป.-เพื่อไทยประสานเสียง! รัฐบาลเรียกพรรคไปถามนโยบายไม่ได้

"ปชป.-เพื่อไทย"ชี้รัฐบาลเรียกพรรคการเมืองไปถามนโยบายไม่ได้ เป็นความลับพรรคการเมือง "ก่อแก้ว"ซัดไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลที่จะมาขอดูการบ้านก่อน 

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีจะเชิญพรรคการเมืองไปหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งหรือถามนโยบายนั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองเลย การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นเรื่องของ กกต. และ รัฐบาล ที่เป็นผู้กำหนด

"การจะมาถามนโยบายพรรคหรือสิ่งที่พรรคการเมืองต้องการทำนั้น เรื่องนี้บอกกันไม่ได้ นโยบายใครก็นโยบายมัน  ถามกันไม่ได้ รัฐบาลไปยุ่งอะไรกับเขา ซึ่งการกำหนดนโยบายมีกฎหมาย รัฐธรรมนูญ เป็นกรอบอยู่แล้ว และมีกกต. เป็นคนดูและอีกชั้น ว่านโยบายนั้นทำได้หรือไม่อย่างไร ดังนั้นการที่รัฐบาลจะถามนโยบายนั้นไม่ควรอย่างยิ่ง" นายนิพิฏฐ์ กล่าว

ด้าน นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวว่า รัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อปฏิรูปประเทศ รวมทั้งปฏิรูปนโยบาย โดยบอกว่าไม่ให้ใช้นโยบายประชานิยม  แต่วันนี้รัฐบาลปฏิรูปอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันบ้าง แต่กลับทำสิ่งที่เคยด่ารัฐบาลเก่าไว้ มาทำนโยบายประชานิยม โดยไม่รู้ว่าทำแล้วจะได้ประโยชน์อะไร ดังนั้นหลายคนก็มองว่าการกระทำอย่างนี้เป็นการหาเสียง โดยอาศัยช่องว่างของงบประมาณ เป็นสิ่งที่สังคมตั้งคำถามว่าเกรงว่าจะไม่คุ้มค่า

"ผมเชื่อว่าเป็นนโยบายหาเสียงที่ปูทางไว้ เผื่อฟลุ๊คจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ที่จริงแล้วการทำโครงการอย่างนี้ ควรที่จะมีกรอบกติกาที่ชัดเจน ว่าทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อประเทศ เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจที่จะมีเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบ ซึ่งควรจะเป็นไปในทิศทางนั้น"นายก่อแก้ว กล่าว

นายก่อแล้ว กล่าวว่า การที่นายกฯ จะเชิญพรรคการเมืองไปหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งนั้น พรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าเราไม่เห็นความจำเป็นต้องไป เพราะการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต.กับรัฐบาล แต่ที่ผ่านมารัฐบาลก็ผิดคำพูดมาโดยตลอด ดังนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไป ส่วนการจะมาถามสิ่งที่พรรคการเมืองจะทำหรือนโยบายพรรคนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล พรรคการเมืองมีอิสระในการทำนโยบาย เพื่อให้ประชาชนเลือก หากถูกใจประชาชนเขาก็เลือกเราเข้ามาทำนโยบาย การที่รัฐบาลอย่างจะรู้นโยบายก่อนนั้น เป็นเรื่องไร้สาระที่จะคุยเรื่องนี้ เพราะการทำนโยบายมีกรอบอยู่ตามรัฐธรรมนูญ และนโยบายของแต่ละพรรคก็เป็นความลับ จนว่าจะมีการเปิดให้ประชาชนได้รับรู้เพื่อการตัดสินใจลงคะแนน ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลที่จะมาขอดูการบ้านก่อน