posttoday

“อุเทน” ซัด 4 ปี “รัฐบาลประยุทธ์” ไร้น้ำยาปราบโกง

20 มีนาคม 2561

“อุเทน” ตอก 4 ปี “รัฐบาลประยุทธ์” ไร้น้ำยาปราบโกง ประจานรากเหง้าทุจริตคือ “ข้าราชการ” ไม่ใช่นักการเมืองที่ถูกกล่าวหา กระตุ้น “นายกฯ” ปราบโกงจริงจัง อย่าลูบหน้าปะจมูก

“อุเทน” ตอก 4 ปี “รัฐบาลประยุทธ์” ไร้น้ำยาปราบโกง ประจานรากเหง้าทุจริตคือ “ข้าราชการ” ไม่ใช่นักการเมืองที่ถูกกล่าวหา กระตุ้น “นายกฯ” ปราบโกงจริงจัง อย่าลูบหน้าปะจมูก

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ส่วนใหญ่เกือบ 57% ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ผลการสำรวจที่ออกมานั้นสะท้อนจากความเป็นจริง เนื่องจากประชาชนมองว่า รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีอำนาจพิเศษ และมีเวลามากกว่าใครๆ น่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ตามที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติได้อย่างรวดเร็ว แต่ผลกลับตรงกันข้าม เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบ 4 ปี ยังคงมีกระแสข่าวการทุจริตของภาครัฐออกมาโดยตลอด ที่สำคัญยิ่งอยู่นานก็ยิ่งมีข่าวหนาหู อาทิ กรณีการทุจริตเงินช่วยเหลือคนยากจนคนไร้ที่พึ่งของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดปกติถึงเกือบ 50 จังหวัด และมีการเบิกจ่ายงบประมาณที่ผิดปกติถึงกว่า 85% หรือกรณีการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น

“ข่าวฉาวโฉ่เรื่องการทุจริตในขณะนี้เป็นการสะท้อนว่า รากเหง้าของการทุจริตในภาครัฐนั้นคือ ข้าราชการ หาใช่นักการเมืองอย่างที่ท่านนายกฯประยุทธ์กล่าวหามาโดยตลอด ยิ่งติดตามข่าวก็ยิ่งสงสารประชาชน และประเทศชาติบ้านเมือง ที่ข้าราชการ ข้าของแผ่นดิน รวมหัวกันหาประโยชน์โดยมิชอบ แต่กลับรอดพ้นการตรวจสอบอย่างจริงจังมาโดยตลอด มีเพียงวาทกรรมของเหล่าคนดีทั้งหลาย จึงอยากตะโกนฝากไปถึง ท่านนายกฯประยุทธ์ว่า ในช่วงท้ายของการทำหน้าที่นายกฯที่มาจากคณะรัฐประหารที่มีอำนาจล้นมือ ต้องมีความกล้าในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง อย่าเพียงสร้างวาทกรรมสวยหรู และก็ลูบหน้าปะจมูกเช่นที่ผ่านมา” ซึ่งสุดท้ายมักหาคนทำผิดมารับโทษไม่ได้ นายอุเทน ระบุ

นายอุเทน กล่าวด้วยว่า พรรคคนไทยได้เรียกร้องหลายครั้งเกี่ยวกับการปริวรรตเงินตรา โดยหยิบยกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินตรา พ.ศ. 2501 ขึ้นมาแก้ไขปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือสีธนบัตรทุกมูลค่าใหม่ทั้งหมด พร้อมกำหนดระยะเวลาวงรอบการเปลี่ยนแปลง และระยะเวลาในการนำธนบัตรเก่ามาแลกเปลี่ยนให้ชัดเจน โดยไม่มีการต่อเวลาในการแลกเปลี่ยนเด็ดขาด และในการแลกเปลี่ยนแต่ละครั้งนั้นต้องมีหลักฐานแสดงที่มาและหลักฐานการเสียภาษีของเงินนั้นๆ ด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้เกิดกระบวนการตรวจสอบทรัพย์สินที่อาจจะได้มาโดยมิชอบ และหากบุคคลใดไม่สามารถแสดงที่มาที่ไปไม่ได้ ก็ต้องยึดเงินส่วนนั้นคืนรัฐ เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการตรวจสอบว่าใครร่ำรวยผิดปกติโดยอัตโนมัติ และสามารถดึงเงินสีเทานอกระบบ กลับเข้าสู่ระบบด้วย

“นายกฯประยุทธ์ควรแสดงความกล้าหาญ มีความจริงใจ ต้องแสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรแอบแฝงอยู่ในกอไผ่ และเสนอแก้ไขกฎหมายเงินตรา พ.ศ 2501 ดึงเงินสีเทาขึ้นมาบนโต๊ะ ทำให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจน อีกทั้งยังจะสามารถนำเงินเข้าสู่ระบบงบประมาณแผ่นดินได้อีกอย่างมหาศาล” หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าว

นายอุเทน ยังได้กล่าวฝากไปถึง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้วยว่า ในฐานะรองนายกฯผู้กำกับดูแลเศรษฐกิจ นอกเหนือจากการปราฐกถาแสดงวิสัยทัศน์ หรือการผลักดันโครงการขนาดใหญ่แล้ว นายสมคิดควรที่จะเข้ามาดูแลประชาชนให้ครบทุกมิติ โดยเฉพาะผู้ที่เดือดร้อนกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยปัจจุบันพบว่า มีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นมีพฤติกรรมรวมหัวกันเอารัดเปรียบนักลงทุนรายย่อยอยู่เสมอ ซึ่งพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีทั้งการเอาเปรียบ และคดโกงโดยการไซฟ่อนเงินในหลายกรณี ส่งผลให้ประชาชนที่เป็นนักลงทุนรายย่อยที่อาจจะขาดข้อมูล และประสบการณ์ตกเป็นเหยื่อของนายทุนที่เขี้ยวลากดิน ใช้เทคนิคในการไซฟ่อนเงินออกจากบริษัทมหาชน เรื่องแบบนี้หากนายสมคิดหรือทีมงานลงมาดู ก็คงจับได้ไล่ทันไม่ยาก อย่างบางบริษัทที่สรุปผลประกอบการขาดทุน หรือไม่มีผลประกอบการเลย แต่กลับราคาหุ้นสูงขึ้นอย่างผิดสังเกต อีกทั้งยังมีการเสนอเพิ่มทุนเพื่อไซฟ่อนเงินหรือทรัพสินออกไปบ่อยครั้ง หรือหากรองฯสมคิดอ่านเกมไม่ออกจริงๆ พรรคคนไทยก็พร้อมที่จะรวบรวมข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการทำหน้าที่กำกับดูแลตลาดทุนของรองนายกฯด้านเศรษฐกิจทุกเมื่อ.