posttoday

เพื่อไทยแนะบิ๊กตู่เร่งปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม

19 มีนาคม 2561

"นพดล" แนะพล.อ.ประยุทธ์ปลดล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม ชี้สร้างปรองดองตรงจุดควรเปืดพื้นที่รับฟังความเห็น อย่าหวาดระแวงนักการเมือง

"นพดล" แนะพล.อ.ประยุทธ์ปลดล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม ชี้สร้างปรองดองตรงจุดควรเปืดพื้นที่รับฟังความเห็น อย่าหวาดระแวงนักการเมือง

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดกับคนไทยในออสเตรเลีย โดยเตรียมเชิญทุกพรรคการเมืองมาพูดคุยหารือถึงแนวนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ เพื่อขจัดความขัดแย้งว่า สิ่งที่ควรทำในเวลานี้ ควรปลดล็อกนักการเมือง  ยกเลิกข้อห้ามชุมนุมทางการเมืองของประชาชน เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมการเมือง เพื่อเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง ตามที่พล.อ.ประยุทธ์  เคยสัญญาไว้ว่าจะมีการเลือกตั้งพ.ย.61 เมื่อปลดล็อกพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรม พรรคสามารถนำเสนอนโยบายต่อประชาชนได้โดยตรง นโยบายเปรียบเป็นอาหารที่เตรียมนำมาเสิร์ฟ ให้ประชาชนจะได้เลือก อีกทั้งยังจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงนโยบายกันอย่างสร้างสรรค์ หน้าที่คสช.คือควรทำให้เกิดความมั่นใจว่ากลไกลจัดการเลือกตั้งจะเดินไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม

"คสช.บริหารประเทศเกือบ4ปี น่าจะต้องรู้ ประเทศมีปัญหาตรงไหน ควรแก้อย่างไร ท่านมีหน้าที่ก็ทำไป แก้ให้ตรงจุดคือ คืนพื้นที่เสรีภาพให้ประชาชน ปลดล็อกพรรคการเมือง เปิดให้ประชาชนแสดงความเห็น ตรวจสอบการทำงานรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลจะถูกเรียกไปปรับทัศนคติ"นายนพดลกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการเชิญทุกพรรคการเมืองนออกจากรับทราบแนวทางพัฒนาประเทศแล้ว พล.อประยุทธ์ คงยังหาทางสลายขั้วความขัดแย้งด้วย นายนพดลกล่าวว่า ถ้าพูดถึงความขัดแย้ง การสร้างความปรองดองก็มีอยู่ในประกาศคสช.ฉบับที่1 แต่จนถึงวันนี้เกือบ4ปี ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร สร้างความปรองดองทำได้เลย เพียงเปิดพื้นที่รับฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ละเว้นวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง และอย่าหวาดระแวงนักการเมือง พรรคการเมืองแล้วเดินหน้าทำตามโรดแมป ตรงนี้ถือเป็นการสร้างความปรองดองที่ตรงจุดที่สุด 

ด้าน นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นักการเมือง พรรคการเมือง ไม่ใช่ทหารของพล.อ.ประยุทธ์ ทุกพรรคการเมืองล้วนมีนโยบายพัฒนาประเทศอยู่แล้ว จะเชิญมาถามนโยบายพัฒนาประเทศทำไม ในเมื่อตัวเองเขียนยุทธศาสตร์ไว้20ปี  ไม่ใช่หน้าที่พล.อ.ประยุทธ์ หากให้กกต.เชิญพรรคการเมืองมาหารือ กฎระเบียบ กฎหมายเลือกตั้ง ยังดีกว่า ส่วนเรื่องที่ระบุจะเป็นการสลายความขัดแย้ง ให้พรรครัฐบาล ฝ่ายค้านเดินไปด้วยกัน มันสวนทางกับคำพูดตัวเอง ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านในสภาฯ แม้ด่ากันอย่างไร สุดท้ายมาจบกันที่การยกมือ เดินไปได้ด้วยกันได้อยู่แล้ว แต่ที่ท่านไปพูดในต่างประเทศ ยังมาเหน็บแนม เรื่องคนหนีคดีไปต่างประเทศ จะมาพูดสร้างประเด็น เหน็บแนมทำไม คนรักก็มี คนไม่ชอบก็มี อย่างนี้หรือการจะสร้างความปรองดอง

นายสมคิดยังกล่าวถึงกรณีสนช.ส่งพรบ.การได้มาซึ่งสว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ทำให้เกิดความกังวลจะทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปอีกว่า คนร่างคือกรธ.ทำไมไม่พูดคุยกับสนช.กันแต่ต้น เพราะท่านได้รับการแต่งตั้งออกมาจากกอไผ่เดียวกัน อย่าเล่นละครกันให้มาก ถ้าอยากให้จบก็จบ ไม่จบก็ไม่จบ กฎหมายได้สร้างปัญหาให้ประเทศแล้ว เห็นได้จากแม้แต่คนร่างกับสนช.ยังเห็นไม่ตรงกัน แล้วถ้าใช้จะเป็นปัญหาขนาดไหน ถ้าพวกท่านไม่อยากให้เลือกตั้งก็อย่าเลือก มาตรา44 ใช้แก้ปัญหาเรื่องอื่นมามาก เรื่องนี้พอเกิดปัญหาความขัดแย้งแล้ว ทำไมไม่ใช้ ทำไมการจะคืนอำนาจให้ประชาชนถึงกลับไม่นำมาใช้