posttoday

ประธานสนช.เผยส่งร่างกฎหมายสว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว

19 มีนาคม 2561

"พรเพชร"ส่งร่างกฎหมายสว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว โต้กรธ.ยกมติศาลรธน.เทียบเคียงไม่ได้ พร้อม ส่งร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.ให้นายกฯ ห่วงวุ่นวายหากยื่นตีความหลังเลือกตั้ง

"พรเพชร"ส่งร่างกฎหมายสว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว โต้กรธ.ยกมติศาลรธน.เทียบเคียงไม่ได้ พร้อม ส่งร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.ให้นายกฯ ห่วงวุ่นวายหากยื่นตีความหลังเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ได้ลงนามส่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19มี.ค. โดยมีสมาชิกสนช.ร่วมลงชื่อส่งเรื่องให้ตีความทั้งหมด 30 คน  ส่วนที่สนช.บางคนเสนอให้พรรคการเมืองทำสัตยาบันยินยอมเลื่อนโรดแมปเลือกตั้งไป 3เดือน แลกกับการยื่นตีความร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.นั้น ตนไม่มีความเห็น แต่มองว่าไม่สมควรพูด

จากนั้นนายพรเพชรได้แจกเอกสารต่อสื่อมวลชน เป็นบันทึกความเห็นของประธานสนช.กรณีการส่งร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และไม่ส่งร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.  โดยตั้งข้อสังเกตร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่งส.ว.ว่า การยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าจะมีผลกระทบต่อโรดแม็ปการเลือกตั้ง เนื่องจากมีการเลื่อนวันบังคับใช้ร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.ออกไป 90 วัน ระยะเวลาดังกล่าวน่าจะเพียงพอสำหรับกระบวนการทั้งหมด

นายพรเพชร ระบุว่า  ส่วนร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.ที่ประธานกรธ.ตั้งข้อสังเกตความชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการตัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง และการให้คนพิการที่ไม่สามารถลงคะแนนเสียงด้วยตัวเอง ให้มีบุคคลช่วยเหลือในการลงคะแนนในคูหาเลือกตั้งได้นั้น เห็นว่า ในประเด็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จะไม่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง เป็นหลักการที่ถูกต้องแล้ว ในการส่งเสริมให้บุคคลตระหนักถึงหน้าที่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง ตำแหน่งข้าราชการการเมืองมีจำนวนน้อย จึงกระทบบุคคลในวงแคบมาก ดังนั้นการจำกัดสิทธิเสรีภาพย่อมทำได้ด้วยบทบัญญัติกฎหมาย  เมื่อมีเหตุผลที่สมควร ไม่น่ามีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ส่วนประเด็นการให้คนพิการมีบุคคลช่วยเหลือในการลงคะแนนเสียงในคูหาเลือกตั้ง เห็นว่า การลงคะแนนเลือกตั้งของคนพิการควรมีการช่วยเหลือให้การใช้สิทธิมีความสมบูรณ์ถูกต้อง คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญที่กรธ.อ้างมานั้น ไม่อาจนำมาปรับใช้ได้กับการช่วยเหลือคนพิการตามร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส. เนื่องจากการช่วยเหลือคนพิการมีคนรู้การลงคะแนนเพิ่มอีกคนเดียว ไม่ใช่การเปิดเผยต่อสาธารณชน การใช้สิทธิเช่นนี้ของคนพิการมีจำนวนน้อยมากในแต่ละคูหา ไม่อาจกล่าวได้ว่าจะทำให้การเลือกตั้งของคนพิการที่มีผู้ช่วยเหลือเป็นกรณีเดียวกับข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญที่นำมาเปรียบเทียบ ในทางตรงข้ามเป็นการรับรองสิทธิคนพิการทางการเมือง สอดคล้องวิธีปฏิบัติที่เป็นสากล

นายพรเพชร ระบุว่า นอกจากนี้หากมีการยื่นร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.ต่อศาลรัฐธรรมนูญจะส่งผลให้การประกาศใช้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ช้าไปกว่าเดิมประมาณ 2เดือน แม้เป็นระยะเวลาไม่นานนัก แต่เมื่อสมาชิกสนช.มีความเชื่อมั่นว่าข้อความในร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.ทั้งสองประเด็นดังกล่าวไม่มีปัญหาเรื่องความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีการเข้าชื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ดังนั้นประธานสนช.จึงส่งร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไปยังนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มี.ค.เพื่อดำเนินการต่อไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 

ส่วนความห่วงใยเกี่ยวกับผลกระทบจากการไม่ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส. ที่เกรงว่า หากมีผู้ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในภายหลัง จนอาจมีผลกระทบต่อโรดแมปนั้น ในกรณีการตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น  หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจว่าเป็นโมฆะ จะมีผลคือ ผู้ถูกตัดสิทธิจะได้รับสิทธินั้นคืน โดยไม่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส. จึงไม่กระทบโรดแมป

นายพรเพชร ระบุต่อว่า ขณะที่ประเด็นการให้ผู้พิการมีผู้ช่วยเหลือในคูหาเลือกตั้ง หากมีความกังวลจะขัดรัฐธรรมนูญ ผู้ได้รับผลกระทบควรใช้สิทธินี้ เมื่อร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะ ผลที่เกิดขึ้นคือ สิทธิของผู้พิการที่ได้รับความช่วยเหลือจะหายไป ไม่จำเป็นต้องแก้ไขร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.  อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวจะมีผลกระทบ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นนี้เป็นโมฆะ หลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้วอาจมีผลต่อการนับคะแนนได้ ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องที่เห็นว่า บทบัญญัตินี้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญจึงควรยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง  ขอยืนยันว่า สนช.พิจารณากฎหมายด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังไม่ให้มีบทบัญญัติใดขัดรัฐธรรมนูญ