posttoday

จับทุจริตเลือกตั้ง วางเป้าคดีละล้าน

16 มีนาคม 2561

กกต.หวั่นคดีร้องเรียน เลือกตั้งสูงของบประมาณ 900 ล้าน จับทุจริต วางเป้าคดีใหญ่ใช้ทำคดีละ 1 ล้าน

กกต.หวั่นคดีร้องเรียน เลือกตั้งสูงของบประมาณ 900 ล้าน จับทุจริต วางเป้าคดีใหญ่ใช้ทำคดีละ 1 ล้าน

นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ระบบเลือกตั้งใหม่ที่คะแนนสัดส่วนไปผูกกับคะแนน สส.เขต จะทำให้เกิดปัญหามีคดีเข้ามาค่อนข้างมาก ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะใช้งบประมาณจัดการเลือกตั้งมากกว่าในอดีต โดยจะใช้ประมาณ 5,800 ล้านบาท และในเรื่องของการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม ก็มีการของบประมาณไว้สำหรับการหาข่าว การคุ้มครองพยาน การจ่ายเงินรางวัลนำจับให้ผู้แจ้งเบาะแสทุจริตประมาณกว่า 900 ล้านบาท

ทั้งนี้ ร่างระเบียบสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ที่ทางสำนักงานเตรียมเสนอให้ กกต.พิจารณาเห็นชอบ ก็วางหลักเกณฑ์ไว้ว่า ในกรณีที่เป็นคดีใหญ่สำคัญๆ ก็จะสามารถใช้งบเพื่อการสืบสวนได้สูงถึง 1 ล้านบาท

ขณะเดียวกันในการสืบสวน กกต.ได้มีการเตรียมในเรื่องของอุปกรณ์ และระเบียบกฎหมายต่างๆ ที่จะมาเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบการทุจริต เช่น เรื่องการสืบสวนหาข่าวก็มีการเตรียมกล้องส่องทางไกล กล้องกระดุม เครื่องบันทึกเสียง เป็นต้น ทั้งนี้แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีพรรคการเมืองเพิ่มมากขึ้น แต่ก็คิดว่าพนักงานสอบสวนของ กกต.สามารถดูแลได้อยู่แล้ว

ด้าน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง แถลงแผนการปฏิรูปว่า ในระยะเร่งด่วนได้กำหนดให้มีการปฏิรูปการเลือกตั้งครั้งแรก นับจากนี้เพื่อให้เป็นการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม โดยเร็วๆ นี้จะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ คสช. ให้รัฐบาลกำหนดให้ประเด็นนี้เป็นวาระแห่งชาติเพื่อการปฏิรูปด้านการเมืองด้วย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ ปฏิรูปฯ ได้กำหนดเรื่องสำคัญที่เห็นว่าจะทำให้การปฏิรูปเกิดผลสัมฤทธิ์ไว้ 5 ประเด็นสำคัญ คือ 1.การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.กลไกการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีและการรู้รักสามัคคีของสังคมไทย 3.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรม 4.การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมเพื่อการปฏิรูปประเทศ และ 5.การสร้างรัฐธรรมาธิปไตย

อย่างไรก็ดี การปฏิรูปไม่ใช่เฉพาะเรื่องของนโยบาย ที่ดำเนินการเฉพาะเรื่องหรือเฉพาะช่วงเวลาเท่านั้น แต่แผนการปฏิรูปจำเป็นจะต้องครอบคลุมในทุกเรื่องและต้องทำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นนักการเมืองและรัฐบาลจากนี้จะต้องผูกพันกับการปฏิรูปประเทศ ในขณะที่ประชาชนถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด