"แม้ว"ไม่ตั้งทนายสู้ค้านอ่านคดีลับหลัง

"ทักษิณ" อัดกฎหมายพิจารณาคดีลับหลังขัดหลักนิติธรรมสากลไม่ตั้งทนายสู้ ยันแปลงสัมปทานไม่ทำรัฐเสียหาย

นายวีรภัทร ศรีไชยา หนึ่งในคณะทนายความคดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ยกคดีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคม เป็นภาษีสรรพสามิตขึ้นพิจารณา และออกหมายจับนายทักษิณนั้น ได้รับทราบจากคนสนิทของนายทักษิณว่า ท่านไม่เห็นด้วยกับกรณีที่มีการแก้กฎหมายให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ และเป็นกฎหมายย้อนหลังอันขัดหลักนิติธรรมสากล

"ท่านทักษิณได้จบปริญญาเอกทางด้านกระบวนการยุติธรรมทางอาญา จึงขอคัดค้านความไม่ยุติธรรมทุกรูปแบบ" นายวีรภัทร กล่าว

ขณะเดียวกันการแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตนั้น รัฐไม่ได้เสียหาย บริษัทก็ไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ

เนื่องจากบริษัทต้องจ่ายค่าตอบแทนเท่าเดิมโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจ่ายเป็นภาษีสรรพสามิต อีกส่วนหนึ่งจ่ายให้กับบริษัทรัฐวิสาหกิจ ซึ่งรัฐเป็นเจ้าของ การจ่ายแบบนี้ทำให้รัฐได้เงินมาแก้ปัญหาประเทศเร็วขึ้น ไม่ต้องรอปันผลจากรัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาจนำไปลงทุนผิดพลาดก็ได้

นายวีรภัทร กล่าวว่า เมื่อคดีอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลแล้ว เชื่อว่าศาลคงจะได้พิจารณาตรวจสอบว่า กรณีการแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต เมื่อกระทรวงการคลังได้รับประโยชน์ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว จะก่อเกิดความเสียหายแก่รัฐ ตามฟ้องของอัยการสูงสุดหรือไม่ ซึ่งจะได้ติดตามผลของคดีนี้ต่อไป

ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่นายทักษิณไม่แต่งตั้งทนายความต่อสู้คดีดังกล่าว ศาลก็จะพิจารณาไปฝ่ายเดียว ช่วยไม่ได้เพราะเป็นระบบไต่สวน ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อนายทักษิณเอง