posttoday

พิชัย คาด ถูกคสช.เรียกอาจหวังกลบข่าวความนิยมทรุด ทุจริตพุ่ง

23 กุมภาพันธ์ 2561

“พิชัย” ไม่ทราบสาเหตุที่ถูกเรียก คาด อาจหวังกลบข่าวความนิยมทรุด ทุจริตพุ่ง

“พิชัย” ไม่ทราบสาเหตุที่ถูกเรียก คาด อาจหวังกลบข่าวความนิยมทรุด ทุจริตพุ่ง

เมื่อวันที่ 23 กพ. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้มีหมายเรียกมาหาตนโดยแจ้งข้อหา ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศ คสช. และให้ตนไปพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 15 มีนาคม นั้น ยังไม่รู้ว่ามีสาเหตุใด เพราะระยะหลัง ข่าวส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่สื่อคาดหวังว่าตนจะลงสมัครผู้ว่า กทม. และตนเองก็ไม่ค่อยได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบ่อยนัก นอกจากจะมีสาเหตุของเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างมากจริงๆ และได้มีการเสนอข้อแนะนำอย่างสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนเดือดร้อนตามที่ได้พูดคุยกันไว้  อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจก็ดีขึ้นมาบ้างแต่ก็น่าจะดีกว่านี้มาก หากได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งที่มีความรู้ความสามารถในการบริหาร และไม่ต้องติดกรอบปัญหาการเมืองที่ยังเป็นเงื่อนไขของหลายประเทศที่ไม่เจรจาการค้าด้วย และยังมีปัญหาการกระจายรายได้ที่มีเพียงคนจำนวนน้อยที่ได้ประโยชน์จากการเจริญเติบโต จนดูเหมือนเป็นการผูกขาดประเทศนี้ไปแล้ว ซึ่งการผูกขาดนี้จะปิดกั้นโอกาสของประชาชนส่วนใหญ่ที่จะพัฒนาก้าวขึ้นมาได้ จึงไม่เข้าใจว่าจะมาเรียกตนด้วยเหตุใด อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ต้องการเรียกตนเพื่อกลบข่าวกระแสนิยมที่กำลังตกต่ำอย่างมากของรัฐบาลในปัจจุบัน อีกทั้ง กระแสการทุจริตคอรัปชั่นที่พุ่งขึ้นสูง จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่เระบุว่าดัชนีคอรัปชั่นพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี และอาจมีการทุจริตคอรับชั่นพุ่งขึ้นถึง 2 แสนล้านบาท

อีกทั้งดุสิตโพลล์ยังให้รัฐบาลสอบตกเรื่องทุจริตคอรัปชั่นโดยได้คะแนนเพียง 4.85 จาก คะแนนเต็ม 10 และแม้องค์กรความโปร่งใสสากลจะจัดอันดับความโปร่งใสของไทยอยู่ที่ 96 ซึ่งดีกว่าปีที่แล้วที่ 101 แต่ก็ยังต่ำกว่า ปี 2558 ที่อันดับ 76 มาก และ องค์กรความโปร่งใสสากลนี้ยังระบุว่าไทยมีการจ่ายใต้โต๊ะเป็นอันดับ 3 ซึ่งสูงกว่า กัมพูชา และ เมียนมาร์เสียอีก ดังนั้นจึงขออย่าได้นำการเรียกตนเพื่อกลบปัญหาเหล่านี้ ทั้งนี้จึงอยากถามว่า การเรียกตนทั้ง 10 หนนี้ เป็นปัญหาสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะรัฐบาลได้มีมติให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับดำเนินการตรงข้ามหมด แม้กระทั่ง องค์กรสิทธิมนุษยชนสากล เช่น ฮิวเมนไรท์วอทช์  แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฯลฯ ยังตำหนิรัฐบาลหลายครั้ง