posttoday

ปลุกสังคมบอยคอต3คดีฉาว

10 กุมภาพันธ์ 2561

อดีต สส.ประชาธิปัตย์เรียกร้องสังคมร่วมกันคว่ำบาตรผู้ที่เกี่ยวข้องและให้ความช่วยเหลือ กับ 3 คดีฉาวเพื่อปฏิรูปประเทศแบบไทยนิยม

อดีต สส.ประชาธิปัตย์เรียกร้องสังคมร่วมกันคว่ำบาตรผู้ที่เกี่ยวข้องและให้ความช่วยเหลือ กับ 3 คดีฉาวเพื่อปฏิรูปประเทศแบบไทยนิยม

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนคนไทยปฏิรูปประเทศแบบไทยนิยม โดยใช้ 3 เรื่องหลักคือ นาฬิกา กรณียืมเงิน 300 ล้านบาท และกรณียิงเสือดำในทุ่งใหญ่นเรศวร มาเป็นอุทาหรณ์เพื่อบอยคอตคนกระทำความผิดและคนช่วยเหลือผู้กระทำความผิด

"ตั้งสติและคิดว่าเราได้อะไรจากเรื่องดังกล่าวบ้าง ช่วยกันกดดันให้กฎหมายได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาเถอะ ให้เรื่องมันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น ใครเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือช่วยเหลือทำผิดให้เป็นถูก เราก็อย่าไปคบหาสมาคมด้วย ใครอุ้มหรือช่วยเหลือคนผิดถ้าเราเจอ เราก็อย่าไปเข้าแถวต้อนรับ อย่าไปขอถ่ายรูปด้วย อย่าไปเซลฟี่ด้วย" อดีต สส.ประชาธิปัตย์ กล่าว

ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า การตรวจสอบปมนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นั้น คาดว่าหากเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวน เบื้องต้นแล้วเสร็จ ก็คงจะแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบภายในเดือน ก.พ.นี้

ทั้งนี้ ทางเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพิ่งจะรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.รับทราบเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น และยังไม่ได้รายงานถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร ได้ส่งหนังสือชี้แจงในรอบที่ 3

ด้าน พล.อ.ประวิตร ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยได้มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ที่เมืองทองธานี  โดยระบุว่า ฝ่ายความมั่นคงเป็นรากฐานสำคัญในการดูแลประเทศในมิติที่กว้างขวางและหลากหลาย สร้างความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำสัญญาประชาคม โดยรับฟังความเห็นฝ่ายการเมือง พรรคการเมือง และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง จึงขอให้ไปศึกษาองค์ประกอบในสัญญาประชาคม 10 ข้อ และภาคผนวก 15 ข้อ เพื่อนำไปบูรณาการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน