posttoday

"ชาญชัย" งัดสัญญาโทลเวย์ จับโกหก"โสภณ"

23 ธันวาคม 2552

ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบสัญญาการขึ้นราคาของบริษัท ทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ว่า สัญญาดังกล่าวเริ่มตั้งแต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  ที่มีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นรมว.คมนาคม มีการต่อสัมปทานให้แก่บริษัทดังกล่าว แต่มีข้อแม้ว่าห้ามฟ้องร้องคดีในอนาคต และให้ถอนฟ้องคดีที่ค้างอยู่ภายใน 30 วัน พอถึงรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มีพล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ เป็นรมว.คมนาคม ก็ได้ต่อสัมปทานตามข้อตกลงดังกล่าว จนกระทั่งมาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นำผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการ ที่ตัดสินให้รัฐบาลชดใช้เงินให้บริษัทวอเตอร์ บา ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทดอนเมือโทลเวย์ วงเงิน 1,500 ล้านบาท เข้าครม.เป็นวาระการประชุมลับ ซึ่งถือเป็นการผิดสัญญาจากข้อตกลงเดิมที่กำหนดไว้ในข้อ 6 เพราะไม่มีการถอนฟ้องคดีที่ค้างอยู่ เท่ากับว่าผลผูกพันของสัญญาเป็นอันสิ้นสุ

ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบสัญญาการขึ้นราคาของบริษัท ทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ว่า สัญญาดังกล่าวเริ่มตั้งแต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  ที่มีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นรมว.คมนาคม มีการต่อสัมปทานให้แก่บริษัทดังกล่าว แต่มีข้อแม้ว่าห้ามฟ้องร้องคดีในอนาคต และให้ถอนฟ้องคดีที่ค้างอยู่ภายใน 30 วัน พอถึงรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มีพล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ เป็นรมว.คมนาคม ก็ได้ต่อสัมปทานตามข้อตกลงดังกล่าว จนกระทั่งมาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นำผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการ ที่ตัดสินให้รัฐบาลชดใช้เงินให้บริษัทวอเตอร์ บา ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทดอนเมือโทลเวย์ วงเงิน 1,500 ล้านบาท เข้าครม.เป็นวาระการประชุมลับ ซึ่งถือเป็นการผิดสัญญาจากข้อตกลงเดิมที่กำหนดไว้ในข้อ 6 เพราะไม่มีการถอนฟ้องคดีที่ค้างอยู่ เท่ากับว่าผลผูกพันของสัญญาเป็นอันสิ้นสุด

 ดังนั้นการที่นายโสภณบอกว่าเพิ่งรับรู้เรื่องดังกล่าว หลังจากที่นายกฯ มอบหมายให้ไปศึกษา จึงเป็นการพูดเท็จ และอาจเข้าข่ายความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 และกฎหมายอาญามาตรา 341 ฐานฉ้อโกง ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ จะเร่งสรุปโดยเร็ว เพื่อส่งให้นายกฯ และครม. รวมถึงให้ประชาชนเก็บใบเสร็จค่าทางด่วน เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการยื่นฟ้องบริษัทฯ ทั้งทางอาญาและแพ่ง โดยขณะนี้มีกลุ่มนักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพิทักษ์ประโยชน์ของประชาชน ได้ทยอยมาขอข้อมูลจากตนประมาณ 4-5 กลุ่ม เพื่อนำไปศึกษาฟ้องร้องต่อไป