พิสูจน์สัญชาติ แรงงานต่างด้าว 8แสนคนมิ.ย.นี้

กระทรวงแรงงานพร้อมสนับสนุน งบประมาณ บุคลากร เพิ่มศักยภาพพิสูจน์สัญชาติ 3 แรงงานที่เหลือกว่า 8 แสนคน ให้เสร็จในเดือน มิ.ย.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แผนปฏิบัติการกรุงเทพฯ ที่ดึงความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการตรวจสัญชาติแรงงานข้ามชาติให้เสร็จในวันที่ 30 มิ.ย. 2561 ที่จะให้บริการด้วยความสะดวกรวดเร็ว โดยลัดขั้นตอน ระยะเวลา และต้องไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์ ทุจริต

ทั้งนี้ ได้ประสานความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตทั้งสามประเทศ เพื่อปรับระบบการให้บริการการตรวจสัญชาติในจุดต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพ เพิ่มเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ เครื่องมือให้เพียงพอ

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลผ่อนผันให้แรงงานข้ามชาติขึ้นทะเบียนขออนุญาตทำงาน 1.9 ล้านคน แรงงานที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติไปแล้ว 1.1 ล้านคน คงเหลือที่ยังไม่ได้พิสูจน์สัญชาติอีก 8.1 แสนคน ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.นี้ แต่ได้ขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ดังนั้น กระทรวงแรงงานจึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการสนับสนุนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ และตรวจสุขภาพ ลงวีซ่า รวมถึงออกใบอนุญาตทำงาน

นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การปรับระบบพิสูจน์สัญชาติที่รัฐบาลต้นทางจัดให้มีศูนย์พิสูจน์สัญชาติ 3 ชาติ มีทั้งหมด 13 แห่ง ประกอบด้วย เมียนมา 9 แห่ง กัมพูชา3 แห่ง และ สปป.ลาว 1 แห่ง และจัดให้มี CEO 13 คน ที่จะประสานการทำงานกับศูนย์พิสูจน์สัญชาติของประเทศต้นทาง

ทั้งนี้ เมียนมามีศูนย์พิสูจน์สัญชาติ 9 แห่ง มีแรงงานที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติเมียนมา 3.3 แสนคน เชื่อว่าจะเสร็จภายใน 70 วัน คาดว่าในเดือน เม.ย.นี้ จะพิสูจน์สัญชาติได้ทั้งหมด ขณะที่กัมพูชามีศูนย์พิสูจน์สัญชาติ 3 แห่ง ตรวจสัญชาติได้ 1,800 คน/วัน โดยมีแรงงานที่อยู่ระหว่างพิสูจน์สัญชาติประมาณ 4 แสนคน ขณะนี้มีระยะเวลา 140 วัน จึงต้องเพิ่มศักยภาพที่จะต้องเพิ่มบุคลากร อุปกรณ์ เช่นเดียวกันกับทาง สปป.ลาว มีแรงงานที่อยู่ระหว่างพิสูจน์สัญชาติร่วม 1 แสนคน พิสูจน์สัญชาติได้ 100 คน/วัน ที่จะต้องใช้เวลาร่วม 400 วัน ดังนั้น จึงต้องเพิ่มบุคลากรและอุปกรณ์