เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค พร้อมคณะแกนนำและฝ่ายกฎหมายพรรค ประกอบด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายวัฒนา เมืองสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ร่วมแถลงข่าว ความล้มเหลวในการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลคสช.
โดยพล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวว่า ขอร้องเรียนท้วงติงการทำงาน ป.ป.ช. สตง. องค์กรอิสระที่ทำงานในการตรวจสอบ ไม่มีประสิทธิภาพทำให้การคอรัปชั่นที่ไม่ชอบทั้งหลายเฟื่องฟูมากขึ้น การปฏิบัติขององค์กรอิสระเลือกปฏิบัติ เห็นแก่พวกพ้อง ละเลยการปฏิบัติหลายสิ่งหลายอย่าง
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบ5โครงการที่ยังคาใจประชาชน ประกอบด้วย 1.โครงการขุดลอกคูคลองทั่วประเทศขององค์การทหารผ่านศึก(อผศ.) ตามที่อผศ.ไปรับจ้างกว่า 1300สัญญา มูลค่ากว่า4.8พันล้าน โดยเงื่อนไขทางสัญญาระบุต้องไม่มีการจ้างช่วง แต่กลับมีการจ้างช่วง บางโครงการจ้างช่วงถึง4ช่วง 2. โครงการ9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน งบประมาณ กว่า 2.2หมื่นล้านล้าน กระจายไปยังพื้นที่ชุมชุม กระทรวงเกษตรฯหวังให้จ้างงาน แต่กลับเกิดความไม่บังควรเกิดขึ้น มีการร้องเรียนหลายเรื่องอาทิ การจัดซื้อจัดจ้างเกินจริง 3. การจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดหรือ GT200 มูลค่า 419ล้านบาท แม้ไม่ได้เกิดในรัฐบาลนี้ แต่เมื่อเรียกร้องการตรวจสอบกลับไม่เกิดขึ้น 4.บุคคลผู้ใกล้ชิดนายกฯ กระทำไม่ชอบ พบการโอนเงินหลวงเข้าบัญชีภรรยาอดีตแม่ทัพภาค3ที่เป็นน้องชายพล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งมีข่าวบุตรชาย ใช้พื้นที่กองทัพเปิดบริษัทรับงานจากกองทัพโดยตรง 5.การยกป่ารอยต่อชุมชนหวยแม็ก 31ไร่ ให้บริษัทเอกชนชื่อดัง ในจ.อุบลราชธานี โดยรายงานระบุป่าที่เช่ายังสมบูรณ์ ไม่ใช่ป่าเสื่อมโทรม มีการรุกร้ำที่สาธารณะ ปิดถนน ใช้พื้นที่เกินจริงจากการเช่า หลักฐานชัดมีการกระทำไม่ชอบ
นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การทำหน้าที่ปปช. เรื่องนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร ก่อนหน้านายศรีสุวรรณ จรรยา นายวีระ สมความคิด ร้องให้ตรวจสอบพล.อ.ประวิตร ปกปิดบัญชีทรัพย์สินและร่ำรวยผิดปกติ ปปช.หากเห็นว่าเข้าข่าย ต้องดำเนินการ ยึดหรืออายัดเพื่อไม่ให้หลักฐานเปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือนปปช.พยายามทอดเวลาให้ผู้ถูกกล่าวหาได้มีเวลา รวมทั้งเลขาปปช.ทำหน้าที่เหมือนโฆษกและทนายความพล.อ.ประวิตร ตามหลักปปช.ต้องให้จำเลยพิสูจน์ตัวเอง หากพิสูจน์ได้นำทรัพย์สินกลับคืน พิสูจน์ไม่ได้ก็ยึด เหมือนที่เคยทำกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามตั้งตัวเองเป็นประธานต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ มีพล.อ.ประวิตร เป็นที่ปรึกษา แต่พล.อ.ประยุทธ์ บอกเรื่องพล.อ.ประวิตร เป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งที่ก่อนหน้าหากมีประเด็นเช่นนี้พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้อำนาจสั่งพักงานไว้ก่อน นอกจากปปช.ไม่ทำหน้าที่ ยังปกป้องคนทำผิด ปล่อยเวลาให้เวลาผู้ต้องหาแสวงพยานหลักฐานกลบเกลื่อนการกระทำของตัวเอง หากปล่อยให้ปปช.ทำหน้าที่ต่อไป ไม่เพียงไม่ตรวจสอบ จึงไม่แปลกใจที่องค์กรแห่งนี้ถูกตั้งให้เป็น องค์กรไฮเตอร์
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของปปช.ที่ผ่านมา ที่เรามักตั้งคำถามคือ เป็นกลางหรือไม่ เป็นเครื่องมือของใครหรือไม่ ได้ทำหน้าที่เที่ยงธรรม ไม่เลือกปฏิบัติหรือไม่ คิดว่าปปช.ตอบคำถามไม่ได้ หากติดตามการแต่งตั้งปปช. แท้จริงแล้ว ปปช.มีฐานที่มาจากคสช.คงจะไม่ผิดมากนัก ปัญหาที่จะเป็นวิกฤตต่อองค์กรอิสระและระบบกฎหมายคือ สนช.มีมติเมื่อ2-3วันที่ผ่านมาให้ ปปช.อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ9ปี ทั้งที่กรรมการปปช.7ใน9 ขาดคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่องค์กรอื่น เช่น กกต.กรรมการสิทธิมนุษย์ชน กลับมีการเซ็ตซีโร่ หลายเรื่องที่เราบอกเป็นเหมือนการโกงกฎหมายเพื่อพวกพ้อง โดยพรรคเพื่อไทยจะติดตามตรวจสอบในหลายเรื่องต่อไป
นายจาตุรนต์กล่าวว่า การตรวจสอบทุจริตคนในรัฐบาลคสช.มีปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ปปช.ไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง สร้างความเสียหายต่อราชการ กรณีล่าสุดมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร แทนที่ปปช.ควรดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สิน แต่เจ้าหน้าที่ปปช.กลับทำหน้าที่โฆษกแก้ต่างให้ผู้ต้องหา การตรวจสอบคอรัปชั่นล้มเหลวสิ้นเชิง หากปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อจะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ปปช.ขาดความชอบธรรมในการตรวจสอบทุจริต จึงควรเปลี่ยนกรรมการปปช.ทั้งชุด ควรให้มาจากกระบวนการสรรหา มีคุณสมบัติไม่มีคุณลักษณะต้องห้ามตรงตามเจตนารมณ์ ส่วนจะให้สรรหาใหม่ มีทั้งให้ปปช.ลาออก หรือผู้เกี่ยวข้องดำเนินการถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ โดยปปช.ชุดใหม่ต้องมาดำเนินการตรวจสอบทุจริตทั้งหลายอย่างจริงจัง โปร่งใส
นายภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่ผ่านมาสะท้อนความล้มเหลวรัฐบาล สะท้อนความไม่ไว้ใจวางรัฐบาล ผู้นำรัฐบาล ทำให้รู้สึกว่าความน่าเชื่อถือรัฐบาลหมดไป คำพูดผู้นำรัฐบาลก็เปลี่ยนแปลงตลอด ไม่น่าเชื่อถือ เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ สำหรับประธานปปช. ไม่อยากให้ต้องหม่นหมอง เพราะความกตัญญู ไม่อยากให้เกียรติภูมิที่สร้างมาถูกทำลาย ไม่อยากให้ฝืนทำสิ่งที่ผิด การถอนตัวไม่ตรวจสอบของประธานปปช.นั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องถอนตัวออกจากสิ่งไม่ดีทั้งหมด ในการจะมาทำการฟอกขาวในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ภาพประกอบข่่าว