"โอ๊ค"ร้องยธ.อีกรอบขอเป็นธรรมคดีทุจริตปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย

ทนาย"พานทองแท้"ร้องรมว.ยธ.อีกรอบขอเป็นธรรมคดีทุจริตปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย อ้างถูกพนักงานอัยการร่วมสอบแทรกแซงคดี-ดีเอสไอสั่งตัดพยานปากสำคัญ ชี้เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพล.อ.อ ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมใน 2  เรื่อง คือ การถูกแทรกแซงการทำงานจากบุคคลอื่นหรือพนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวนในคดี และการถูกพนักงานสอบสวนสั่งตัดพยานตามบัญชีที่นายพานทองแท้ยื่นขอให้สอบสวนเพิ่มเติมจำนวน 18 ปากเหลือเพียง 5 ปาก โดยมีนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับเรื่อง

นายชุมสาย กล่าวว่า พฤติการณ์ของพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวทั้งการให้สัมภาษณ์นักข่าวในลักษณะมีการชี้นำในคดีทำให้ดูเหมือนว่ามีการตั้งธงคำตอบไว้แล้วจึงอาจส่งผลเสียหายต่อรูปคดีทั้งๆที่พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจและไม่ได้เป็นเจ้าของคดี จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม นอกจากนี้ยังมีการสั่งตัดพยานปากสำคัญโดยอ้างว่าฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาต้องการจะประวิงเวลาเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเพราะถือเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งยืนยันว่า พยานที่ถูกสั่งตัดจากบัญชีเป็นพยานปากสำคัญที่จำเป็นต้องได้รับการสอบสวนจากทั้งสองฝ่าย ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาการแทรกแซงการทำงานได้ ส่วนพยานปากสำคัญที่จำเป็นต้องถูกสอบนั้นมีประเด็นข้อมูลสำคัญอย่างไรนั้น ขอไม่เปิดเผยเนื่องจากเป็นข้อมูลในคดี

ด้านนายธวัชชัย กล่าวว่า หลังรับหนังสือแล้วจะรายงานให้รมว.ยธ รับทราบเพื่อดำเนินการต่อไป เบื้องต้นได้เรียกพ.ต.ท วรณัน ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ และพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ มารับทราบด้วย เนื่องจากคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ