"นิวบลัด ชทพ."จี้ขอความชัดเจนวันเลือกตั้ง

กลุ่ม“นิวบลัด ชทพ.” ชี้ ข่าวขยายเวลา 90 วัน กระทบน่าเชื่อถือของนายกฯ  ลั่น ขอวันเลือกตั้งชัดๆ กติกาเป็นธรรม เราพร้อมหมด

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา กลุ่มส.ส.นิวบลัด พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายภราดร ปริศนานันทกุล อดีตส.ส.อ่างทอง นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีตส.ส.ศรีสะเกษ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีตส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่มีรายงานว่ากรรมาธิการพิจารณากฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. จะขยายเวลาหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ เป็นเวลา 90 วัน

โดยนายภราดร กล่าวว่า จนถึงขณะก็ยังไม่สามารถยืนยันถึงแหล่งที่มาข่าว ไม่แน่ใจว่าเรื่องจริงหรือไม่ เจตนาอะไร แต่ตามหลักกฎหมายก็มีความเป็นไปได้ สามารถขยายได้ตลอด อย่างไรก็ตามข่าวที่ออกมาส่งผลกระทบโดยตรงและความน่าเชื่อถือต่อตัวนายกฯ ที่ได้ประกาศว่าจะเดินตามโรดแม็ปและจะเลือกตั้งปลายปี 61 แต่หากเป็นไปตามข่าว เท่ากับว่ามีการเลือกตั้งหลังจากโรดแม็ปที่นายกฯประกาศไว้ทำให้สิ่งที่นายกฯ พูดไว้ไม่น่าเชื่อถือ จึงเป็นห่วงนายกฯ และคสช. การมีให้ข่าวทำนองนี้

เมื่อถามว่าหากขยาย 90 วันจริง ในฐานะนักเลือกตั้งมองอย่างไร นายภราดรกล่าวว่า 2 พรรคใหญ่แสดงความเห็นไปแล้ว ส่วนตนเห็นว่าประเด็นยังไม่ชัดจึงขอไม่พูด

เมื่อถามว่าในมุมของพรรคชาติไทยพัฒนา การให้มีผลในวันรุ่งขึ้น หรือให้มีผลใน 90 วัน แบบไหนจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เราไม่ใช่นักเลือกตั้ง เลือกตั้งเมื่อไรก็ขึ้นอยู่กับกติกา จะเลือกตั้งปีนี้หรือปีหน้าสื่อไม่ต้องถามตนเลย เพราะเหมือนเรื่องเก็งหวยว่าถูกหรือไม่ หลายคนพูดกันวงนอกว่าปีนี้อาจจะไม่ได้เลือก จึงต้องรอดู การประกาศวันนี้พรุ่งนี้ อีก 15 วัน หรือ 90 วัน ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นสำคัญ คือวันไหนก็เอาให้ชัด เราพร้อมหมด และมีเวลาทำงานเท่าเทียมเป็นธรรม แต่ในขณะที่เวลาล่วงเลยไป รัฐบาลต้องแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนให้ดี

ด้านนายกรวีร์ กล่าวว่า เรากลัวในสิ่งที่เราไม่รู้ ถ้าเรารู้ หรือฟันธง ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแม็ป ตนคิดว่าฝ่ายการเมืองเรารับได้ แต่การออกข่าว การโยนหิน หรือมีกระแสข่าวออกมาว่าการเลือกตั้งต้องขยับไปอีก 90วัน สิ่งที่เราเป็นห่วงคือ ภาพลักษณ์ของรัฐบาลเอง อย่างไรก็ตาม ถ้าถามว่า 2 พรรคขนาดใหญ่ หรือพรรคขนาดกลางอย่างพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคเล็ก ถ้าอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน ไม่เสียเปรียบและเจอข้อจำกัดเดียวกัน ท้าท้ายอย่างเดียวกัน เรารับได้ นอกจากนี้อยากฝากถึงกรรมาธิการ และรัฐบาลคือ ไม่อยากให้มองนักการเมืองหรือพรรคการเมืองเป็นปฏิปักษ์ไปหมด อยากให้รับฟังความเห็นของฝ่ายการเมืองด้วย เพราะท่านเป็นคนเขียน แต่คนใช้คือฝ่ายการเมือง หากเขียนกฎหมายแล้วทำให้ฝ่ายการเมืองรู้สึกว่ากลั่นแกล้งหรือ ทำให้บางกลุ่มบางพรรคได้หรือเสียประโยชน์ก็จะเกิดข้อขัดแย้งในอนาคตได้