posttoday

หวั่นยื่นศาลตีความทำเลือกตั้งเลื่อน

06 มกราคม 2561

แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาหวั่นพรรคใหญ่ยื่นศาลตีความคำสั่ง คสช.เข้าทางรัฐบาล กระทบโรดแมปเลือกตั้ง

แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาหวั่นพรรคใหญ่ยื่นศาลตีความคำสั่ง คสช.เข้าทางรัฐบาล กระทบโรดแมปเลือกตั้ง

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า หากมีผู้ยื่นร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาตรา 44 เกี่ยวกับคำสั่ง คสช. 53/2560 ขัดรัฐธรรมนูญก็อาจมีผลกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้งปลายปี 2561 นอกจากนี้ขอให้จับตาการพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมวาระ 2-3 สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่จะมีผลต่อโรดแมปเลือกตั้งเช่นกัน

นอกจากนี้ กรรมาธิการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ยังไม่ได้สอบถามความคิดเห็นจากพรรคการเมืองในฐานะผู้ปฏิบัติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 จึงขอเรียกร้องให้ สนช.เปิดเผยรายละเอียดร่างกฎหมายดังกล่าวด้วย

"ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ยอมลำบากและรับสภาพ เพราะเรายอมให้เลื่อนออกไปไม่ได้ ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม เพราะอยากเลือกตั้งเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน บ้านเมืองจะเดินหน้าไป ไม่อย่างนั้นจะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน" นายนิกร กล่าว

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างการยกร่างคำร้องเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ มีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของสมาชิกพรรคการเมือง และส่งให้กับผู้ใหญ่ในพรรคที่เป็นนักกฎหมายตรวจสอบในขั้นสุดท้าย และคาดว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ม.ค. จะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต สส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้เสนอนายกฯ คนนอก เพื่อจะไม่มีการปฏิวัติ แต่กติกาตามรัฐธรรมนูญนี้เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อน และ ไม่เป็นตามครรลองประชาธิปไตยที่เลือกนายกฯ โดยรัฐสภา เพราะสมาชิกส่วนหนึ่งคือ สว.ไม่ได้มาจากการ เลือกตั้งของประชาชน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศไม่ปิดประตูที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น ถือเป็นเรื่องดี จะได้เกิดความชัดเจน ไม่คลุมเครือหรือครึ่งๆ กลางๆ อีกต่อไป เชื่อว่าจากนี้ไปหลายฝ่ายคงติดตามว่าบทบาทในฐานะนักการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นอย่างไร จะต่างจากนักการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยวิจารณ์หรือไม่