posttoday

"บิ๊กตู่"อวดผลงานปีใหม่5อย่างเป็นของขวัญประชาชน

22 ธันวาคม 2560

นายกฯอวดผลงาน5ด้านเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน และให้คนไทยใช้เทศกาลนี้ส่งความสุขถึงกันให้พบแต่สิ่งดี

นายกฯอวดผลงาน5ด้านเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน และให้คนไทยใช้เทศกาลนี้ส่งความสุขถึงกันให้พบแต่สิ่งดี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า ใกล้เทศกาลปีใหม่ เทศกาลที่เราคนไทยนิยม "ส่งความสุข"ถึงกัน และอำนวยอวยพรซึ่งกันและกัน ให้พบแต่สิ่งดี ๆ ในโอกาสนี้ก็อยากให้พี่น้องชาวไทยทุกคนมี ความสุขที่ยั่งยืน ใครที่มีความฝันก็ขอให้สมความหวัง ด้วยการลงมือทำ ไม่ต้องรอคอยความหวัง การช่วยเหลือแต่เพียงอย่างเดียว หรือรอโชคชะตาฟ้าลิขิต รอการเลือกตั้ง รอรัฐบาลใหม่อะไรทำนองนี้ ต้องทำตั้งแต่วันนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีพรใดจะศักดิ์สิทธิ์ หรือส่งผลสัมฤทธิ์ได้หากเราไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา ด้วยปัญญา ไม่ใช้ความเพียร อย่างมุ่งมั่น อยากให้ทุกคนอยู่บนโลกของความเป็นจริง มีหลักคิดบนพื้นฐานของเหตุและผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ ใช้อดีตเป็นบทเรียนสอนใจ แม้ใครจะเคยล้ม ก็ขอให้ลุกขึ้นก้าวเดินต่อไปได้ เราจะเป็นกำลังใจให้แก่กันตลอดไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลและ คสช. ไม่ได้เพียงคำนึงถึง"เพียงของขวัญปีใหม่" สำหรับคนไทยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ในแต่ละปี หากพูดถึง "ของขวัญ" แล้วรัฐบาลและ คสช. ไม่ได้รอที่จะมอบให้กับพี่น้องประชาชน เฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญแต่จะมอบให้ทุกๆวัน หลายสิ่งที่ลงมือทำไปแล้ว ลงมือแก้ปัญหาไปแล้ว ตลอดระยะเวลา 3 ปี ปัญหาเหล่าที่ได้รับการคลี่คลาย และ แก้ไขไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไปสู่ความยั่งยืน ได้แก่

(1) คือการแก้ปัญหาการค้างาช้างภายในประเทศ ตามอนุสัญญาไซเตส (CITES)
(2) การ "ปลดธงแดง" ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งมีความก้าวหน้ามาไปตามลำดับ
(3) ก็คือการต่อสู้กับการค้ามนุษย์ เราได้กำหนดให้เป็น "วาระแห่งชาติ" จนลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์การค้ามนุษย์ลงจาก "ระดับ 2 ที่ถูกจับตามอง" (Tier 2Watch list)
(4) คือการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย (IUU) ซึ่งวันนี้ก็มีความคืบหน้าไปมากเพื่อนำไปสู่การ"ปลดธงเหลือง"และการบูรณาการการให้ความช่วยเหลือชาวประมงที่เดือดร้อน
และ(5) คือผลการประกาศสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทย สหรัฐฯถอดประเทศไทย ออกจาก"กลุ่มประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ"ให้อยู่เพียงใน "กลุ่มบัญชีจับตาธรรมดา"หลังได้ใช้ความพยายามในเรื่องนี้มาแล้วกว่า 10 ปี