มติป.ป.ช.ฟัน"นพรัตน์-พนม-ประนอม "ทุจริตเงินทอนวัดพนัญเชิง
ป.ป.ช.ชี้มูล"นพรัตน์-พนม-ประนอม "คดีทุจริตเงินทอนวัดพนัญเชิงผิดอาญามาตรา 147 ,151 และ157 ส่วนชมพูนุช คนใกล้ชิอดีตผอ.พศ.โดนข้อหาสนับสนุนจนท.รัฐทำผิด
ป.ป.ช.ชี้มูล"นพรัตน์-พนม-ประนอม "คดีทุจริตเงินทอนวัดพนัญเชิงผิดอาญามาตรา 147 ,151 และ157 ส่วนชมพูนุช คนใกล้ชิอดีตผอ.พศ.โดนข้อหาสนับสนุนจนท.รัฐทำผิด
สำนักงานป้องกันและปราบปปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)-19 ธ.ค.60 นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงข่าวการชี้มูลความนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายพนมศรศิลป์ อดีตผอ.พศ. น.ส.ประนอม คงพิกุล รองผอ.พศ.กับพวกทุจริตงบประมาณโครงการเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัด กรณีวัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้รับงบฯอุดหนุนในปี 57-58 โดยป.ป.ช.แต่งตั้งอนุไต่สวนและมอบหมายให้นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ ในชั้นไต่สวนพบการทุจริตเป็นขบวนการมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกทำหน้าที่ติดต่อวัดเจรจา เข้าไปพูดคุยว่าพศ.มีงบให้วัด สนใจหรือไม่ กลุ่มที่ 2 รับหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานเพื่อขออนุมัติตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการ และกลุ่มที่ 3 ผู้มีอำนาจอนุมัติงบประมาณ
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า ในชั้นไต่สวนพบว่าในปี 57 น.ส.ประนอม ขณะดำรงตำแหน่งผอ.กองพุทธศาสนสถาน ได้เข้าไปติดต่อวัดพนัญเชิงเพื่อมอบเงินอุดหนุนวัด 10 ล้านบาท แต่ทางวัดต้องให้โอนคืน 8 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ทำกิจกรรมอื่นที่ไม่สามารถเบิกจ่ายงบฯได้ แล้วตั้งเรื่องให้นายนพรัตน์อนุมัติ โดยไม่มีคำขอรับเงินของวัดมาประกอบการพิจารณาตามระเบียบของทางราชการ เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ไปติดต่อแล้วทำเอกสารมาเสนอให้นายนพรัตน์อนุมัติ จากนั้นกองคลังก็จ่ายเงินให้วัด แล้วให้วัดโอนเงินกลับมาเข้าบัญชีนางชมพูนุท จันฤาชัย บุคคลใกล้ชิดของนายนพรัตน์นำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว สำหรับการทุจริตงบฯปี58 ป.ป.ช.พบวาสเกิดเหตุทำนองเดียวกัน โดยน.ส.ประนอมได้ไปติดต่อวัดพนัญเชิง เสนอให้งบฯ 10 ล้านบาท แล้วขอรับเงินสดกลับคืน 5 ล้านบาท โดยนายพนม ศรศิลป์ รักษากาผอ.พศ. เป็นผู้อนุมัติ ส่งเงินให้วัด แล้วให้วัดถอนเงินสดคืนมาให้น.ส.ประนอม 5 ล้านบาท
นายวรวิทย์ กล่าวต่อว่า ป.ป.ช.ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาเข้าชี้แจง แต่นายนพรัตน์ไม่อยู่ในประเทศไทย จึงได้ชี้แจงเป็นเอกสารว่าดำเนินการตามขั้นตอน แต่ป.ป.ช.พบหลักฐานการกระทำผิดเป็นขบวนการ นางชมพูนุทก็เป็นคนใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับนายนพรัตน์ ส่วนกรณีของนายพนมชี้แจงว่าดำเนินการตามเจ้าหน้าที่เสนอมา ป.ป.ช.จึงมีมติชี้มูลการกระทำของนายนพรัตน์ น.ส.ประนอม และนายพนม มีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมในความผิดอาญามาตรา 147 ,151 และ157 รวมทั้งกระทำการโดยทุจริต ผิดวินัยร้ายแรง ส่วนนางชมพูนุทไม่มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ
นายวรวิทย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับคดีทุจริตเงินทอนวัด กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ปปป.) ส่งสำนวนคดีมาให้ป.ป.ช.ดำเนินการ ล็อตแรก 47 สำนวน ล็อตที่ 2 จำนวน 23 สำนวน ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องกลุ่มเดียวกันและผู้เกี่ยวข้องรายใหม่ มีพฤติการณ์การกระทำผิดใกล้เคียงกัน และเป็นเรื่องที่ร้องตรงมายังป.ป.ช. จำนวน 62 เรื่อง รวมทั้งสิ้น 97 เรื่อง โดยป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนแล้ว 8 เรื่อง คาดว่าใช้เวลาไม่นาน