ประธานสนช.ปัดรับลูกแก้กม.พรรคการเมือง ย้ำอยู่ในขั้นศึกษา

"พรเพชร"ปัดรับลูกแก้กฎหมายพรรคการเมือง ยันอยู่ในขั้นตอนศึกษา ชี้หากทำกระทบเลือกตั้งแน่

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเสนอให้มีการแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่า กฎหมายพรรคการเมืองเท่าที่เข้ามาสู่การรับลูกของสนช.มีเฉพาะที่มายื่นเรื่องขอความเป็นธรรม ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการกปปส. และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และมีของพรรคการเมืองคือจากพรรคพลังชล และพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเพียงให้แก้ไขเรื่องกำหนดเวลา หากดำเนินการไม่ทัน

อย่างไรก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายให้ทั้งสองพรรคไปขออนุญาตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ขยายเวลาได้ และในเมื่อมีการเสนอมาก็ส่งให้คณะกรรมการศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำหน้าที่ศึกษากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญนำไปพิจารณา โดยประเด็นที่ต้องการให้พรรคการเมืองเท่าเทียมกัน อยากให้รีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองนั้นมีสองฝ่ายที่มีความคิดเห็น ซึ่งก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของสื่อและสังคมที่จะวิจารณ์กัน อย่าให้ตนพูดเพราะอย่างไรต้องฟังทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของสนช.

“พูดง่ายๆเมื่อสนช.รับเรื่องอะไรมาก็นำไปศึกษาในเบื้องต้น จะยังไม่มีความเห็นหรือมติอะไร  และปัญหาที่ส่งไปยังชั้นกรรมาธิการก็เพื่อที่จะให้คำตอบได้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการศึกษาเบื้องต้นจะพิจารณาว่าถ้าไปแก้ไขกฎหมายจะใช้เวลาเท่าใด มีผลเป็นอย่างไรสมควรทำหรือไม่ ดังนั้นเรื่องนี้สนช.จะรับลูกไม่ได้เพราะหายความว่าเมื่อใครมาร้อง แม้แต่เรื่องที่คนทั่วไปมาร้อง สนช.ก็รับไว้หมด ไม่ใช่รับแต่ลูก เรารับทุกอย่างแล้วส่งไปยังกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง แต่ครั้งนี้บังเอิญเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจ”นายพรเพชร กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า จะใช้มาตรฐานหรือบรรทัดฐานอะไรที่จะพิจารณาว่าจะต้องแก้หรือไม่แก้กฎหมาย ประธาน สนช. กล่าวว่า ขั้นตอนยาว ขั้นแรก คือ กรรมาธิการต้องเสนอ  ขั้นที่สองต้องมีกระบวนการที่สมาชิกเห็นชอบ ขั้นที่สาม คือ เสนอร่าง ซึ่งต้องให้มีการร่างและให้สมาชิกเห็นชอบก่อน และเมื่อเห็นร่างแล้วก็ต้องดำเนินการตามมาตรา 77 แต่เวลานี้ยังไม่มีการร่างอะไรเลย

ส่วนจะกระทบกับโรดแมปเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย. 61 หรือไม่นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า การกำหนดการเลือกตั้งไม่ได้เกี่ยวกับตน เพราะเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ตนไม่สามารถบอกได้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่  แต่ถ้ามีการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็มีการกระทบสำหรับเวลาที่กฎหมายลูก 4 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะเสร็จ ดังนั้นกำหนดการเลือกตั้งไม่ได้สิ่งที่ตนกำหนด แต่เป็นสิ่งที่กฎหมาย 4 ฉบับกำหนด แต่อย่างไรก็ตามการแก้กฎหมายพรรคการเมืองก็ต้องนำมาคิดว่าจะกระทบหรือไม่ เมื่อเขาเสนอมาก็ต้องคิดในวันนั้นเลย

เมื่อถามต่อว่า สนช.เกรงหรือไม่ว่าจะถูกสังคมกล่าวหาว่ามีส่วนในเกมยื้อเวลาเลือกตั้ง นายพรเพชรระบุว่า เมื่อสังคมมองอย่างนั้น ก็ต้องระวัง แต่สนช.ทำโดยโปร่งใส  ไปรับหนังสือก็รับโดยเปิดเผยให้ทุกคนรู้ ไม่ได้ไปแอบทำอะไรมุบมิบ ส่วนเรื่องของการปลดล็อคกิจกรรมพรรคการเมืองไม่ใช่หน้าที่ของสนช. แต่เป็นหน้าที่ของคสช.