posttoday

"ไพบูลย์"ชี้หากแก้กม.พรรคการเมืองต้องบรรลุผล3ประการ

18 ธันวาคม 2560

"ไพบูลย์"เผยหากคิดแก้กฎหมายพรรคการเมืองต้องดำเนินการให้บรรลุผล 3 ประการ เพื่อประโยชน์ต่อเลือกตั้ง

"ไพบูลย์"เผยหากคิดแก้กฎหมายพรรคการเมืองต้องดำเนินการให้บรรลุผล 3 ประการ เพื่อประโยชน์ต่อเลือกตั้ง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชน กล่าวถึงการเสนอให้แก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ขจัดปัญหาความเหลื่อมลํ้า ไม่เป็นธรรม สองมาตรฐานในเรื่องการจ่ายเงินทุนประเดิมคนละไม่ต่ำกว่า1,000บาทและเงินบำรุงพรรค ซึ่งสมาชิกพรรคเดิมไม่ต้องจ่าย แต่สมาชิกพรรคจัดตั้งใหม่ต้องจ่าย ตามหนังสือที่ยื่นต่อนายกรัฐมนตรีและประธานสภานิติบัญญัติ (สนช.) ไปเมื่อวันที่12 ธ.ค.นั้น ซึ่งมีบุคคลหลายคนออกมาบิดเบือนกล่าวหา ว่าจะเป็นการเสนอเพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปหรือหัวหน้าพรรคบางพรรค กล่าวหาว่าตนจะแก้ไข สส.ให้ไม่สังกัดพรรคบ้าง ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ส่วนตัวกลับเห็นว่าหากมีการแก้ไข ควรพิจารณาแก้ไขในมาตราอื่นเพื่อให้เกิดผลดีกับประเทศและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ลดความเหลื่อมล้ำ สองมาตราฐาน ที่สำคัญจะทำให้เกิดการเลือกตั้งขึ้นในเดือนพ.ย. 61 และให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สามารถรักษาความสงบไปจนกว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง และควรดำเนินการแก้ไขให้บรรลุผล 3 ประการ ดังนี้

1.เพื่อแก้ไขความเหลื่อมลํ้า เกิดสองมาตราฐานไม่เป็นธรรม ให้แก้ไขในมาตรา 140และ141 ให้สมาชิกทั้งพรรคเดิมและพรรคใหม่สนับสนุนทุนประเดิมและจ่ายค่าบำรุงพรรคแล้วจึงจะมีสมาชิกภาพ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมลํ้าสองมาตราฐาน ซึ่งจำเป็นต้องรีเซ็ตให้สมาชิกพรรคเดิมยังไม่มีสถานะเป็นสมาชิกพรรคจนกว่าจะแจ้งความจำนงพร้อมจ่ายเงินสนับสนุนให้พรรคเช่นเดียวกับพรรคจัดตั้งใหม่

2.เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นทันในเดือน พ.ย. 2561 ตามที่นายกฯได้กล่าวไว้ต่อสาธารณะ ป้องกันไม่ให้มีใครนำไปครหานินทำให้เสื่อมเสียเกียรติภูมิต่อไป จึงควรแก้ไขพรป พรรคการเมือง ให้งดเว้นการบังคับใช้ในส่วนที่สร้างขั้นตอนและเงื่อนไขเป็นภาระให้แก่พรรคการเมืองมากมาย ในเงื่อนไขที่มีเวลาจำกัดจนเป็นอุปสรรค ในการที่พรรคการเมืองทั้งเดิมทั้งใหม่จะดำเนินการเข้าสู่การเลือกตั้งทันในเดือน พ.ย.61  ได้แก่ ควรแก้ไขให้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก ควรยกเว้นการบังคับใช้ระบบ”ไพรมารี่โหวต”ไว้ก่อนโดยให้กรรมการบริหารพรรคที่เลือกจากที่ประชุมใหญ่ของสมาชิกพรรค ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครสสเขตและบัญชีรายชื่อ และให้ยกเว้นการกำหนดให้พรรคการเมืองต้องมีสมาชิกและจัดตั้งสาขาพรรค และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดจึงส่งผู้สมัคร สสได้ เป็นต้น

3.เพื่อให้ คสช ทำหน้าที่รักษาความสงบไปจนกว่า กกต ประกาศผลการเลือกตั้ง โดยไม่กระทบกับการเลือกตั้ง ในเดือน พ.ย.2561 จึงควรกำหนดให้การประชุมของสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรคเพื่อดำเนินการ ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส ดำเนินการได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคสช ที่ 57/2557 และคำสั่งที่7/2557 และให้คำสั่งคสช ทั้งสองฉบับสิ้นผลไปเมื่อ กกต รับรองผลการเลือกตั้ง สส.

โดยจะทำหนังสือเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในสัปดาห์นี้