"บิ๊กตู่"ขอคนไทยไม่ยอมรับการโกง ยัน ไม่เคยเปิดบ้านต้อนรับใครส่วนตัว

นายกฯ เปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่น วอนคนไทยร่วมสร้างวัฒนธรรมใหม่ไม่ยอมรับการทุจริต ขู่จัดการคนแอบอ้าง ลั่น ไม่เคยเปิดบ้านต้อนรับใครส่วนตัว ด้าน ประธาน ป.ป.ช. เชื่อ อีก 2-3 ปี ทุจริตลดลง

เมื่อวันที่  9 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล(ประเทศไทย) ร่วมกับกรรมการ ป.ป.ช. ตัวแทนจากสำนักงาน ป.ป.ท. องค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) ภาคีเครือข่ายภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชนและภาคประชาสังคม โดยวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากลปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Zero Tolerance “คนไทยไม่ทนการทุจริต” ว่า วันนี้ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่มีปัญหาเรื่องการทุจริต แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์การทุจริตในประเทศไทยถือว่าดีขึ้น แต่ยังต้องตั้งเป้าหมายให้ไทยหลุดพ้น โดยไทยได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสำคัญ ให้ทุกคนในชาติตระหนักถึงและไม่ยอมรับการทุจริต โดยยอมรับว่าปัญหานี้เกิดขึ้นยาวนานแต่ไม่ยากเกินไปที่จะสร้างวัฒนธรรมไม่ยอมรับการทุจริต ไม่ให้มีการคอร์รัปชั่น ซื้อขายตำแหน่ง หรือใช้ช่องทางกฎหมายเอื้อประโยชน์ การจัดซื้อจัดจ้างจะต้องมีการตรวจสอบทุกขั้นตอน

ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหาการคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ จึงต้องแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด รวมไปถึงการเร่งรัดการดำเนินคดีกับผู้ทุจริต ทำให้วิธีการทุจริตเก่าๆ หมดสิ้น และไม่เปิดโอกาสให้มีการทุจริตรายใหม่เกิดขึ้น โดยสร้างภาคีเครือข่ายบูรณาการร่วมกันเฝ้าระวังในทุกพื้นที่เสี่ยง ขณะเดียวกัน หากพบมีการแอบอ้างรับผลประโยชน์ให้แจ้งมาที่ตนเองหรือสำนักนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการให้โดยเด็ดขาด พร้อมยืนยันด้วยว่า ตนเองไม่เคยพบใครที่ให้ผลประโยชน์ และไม่เคยเปิดบ้านให้บุคคลเหล่านั้นเข้าพบเป็นการส่วนตัว

ด้าน  พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช.  กล่าวว่า อยากให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หน่วยงานใดที่จะเข้ามาช่วยได้เราก็ขอความร่วมมือ ที่ผ่านมา ขสมก.ช่วยประชาสัมพันธ์ป้องการป้องกันการทุจริตได้มาก จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ช่วยสังคมและประเทศ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี ให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่มีธรรมาภิบาล น่าลงทุน ให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่ไม่มีการทุจริต ดังนั้น เราต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึกเรื่องนี้ให้ได้

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ทุกวันนี้ ป.ป.ช.รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตประมาณเดือนละ 500 เรื่อง ปีละประมาณ 6,000 เรื่อง และมีปริมาณมากขึ้นตามลำดับ นั่นแสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อ ป.ป.ช. และรัฐบาลมากขึ้น โดยเมื่อเชื่อมั่นมาก จึงได้ร้องเรียนเข้ามามาก ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ดำเนินการทุกอย่างอย่างจริงจัง โดยนำผู้กระทำผิดให้ได้รับโทษ จึงทำให้เกิดความเกรงกลัว เชื่อว่าอีก 3 ปีข้างหน้า การทุจริตคอร์รัปชั่นจะลดลง เช่นเดียวกับการร้องเรียนกล่าวหา ก็จะลดลงด้วยเช่นกัน

“เชื่อว่า ในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า การทุจริตก็จะลดลง เพราะทุกฝ่ายช่วยกันเป็นหูเป็นตา และให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส” พล.ต.อ.วัชรวาท กล่าว พร้อมตั้งเป้าภาพรวมของการใช้งบประมาณการต่อต้านการทุจริต ต้องลดการทุจริตให้ได้ 10 %ในปีหน้า 

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมการวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) 9 ธ.ค.2560 เนื่องจากปัญหาการทจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทย รุนแรงมากขึ้น จากผลที่องค์รเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency Interational) ได้ประกาศค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perception Idex หรือ CPI) ประจำปี 2559 โดยประเทศไทยได้ 35 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 เป็นลำดับที่ 101 จากการจัดอันดับทั้งหมด 176 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 6 จาก 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย  จากผลดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศต่างๆ ทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ ที่ทุกประเทศต้องเร่งแก้ไข