posttoday

"โอ๊ค"ขอขยายเวลายื่นคำให้การคดีฟอกเงินแบงก์กรุงไทยอีก 60วัน

08 ธันวาคม 2560

ทนายโอ๊ค-พานทองแท้ ขอขยายเวลายื่นคำให้การคดีฟอกเงินแบงก์กรุงไทยอีก 60วัน หลังครบกำหนด 15 ธค.นี้ ระบุคดีนานแล้วต้องใช้เวลารวบรวมเอกสารขณะที่ดีเอสไอเผยให้ขยายได้เต็มที่แค่ 2 สัปดาห์

ทนายโอ๊ค-พานทองแท้ ขอขยายเวลายื่นคำให้การคดีฟอกเงินแบงก์กรุงไทยอีก 60วัน หลังครบกำหนด 15 ธค.นี้ ระบุคดีนานแล้วต้องใช้เวลารวบรวมเอกสารขณะที่ดีเอสไอเผยให้ขยายได้เต็มที่แค่ 2 สัปดาห์

เมื่อวันที่  8 ธ.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงการสอบสวนคดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวนายพานทองแท้  ชินวัตร  บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย นางเกศินี  จิปิภพ ,นางกาญจนาภา หงษ์เหิน,  นายวันชัย หงส์เหินในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบฟอกเงินว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายพานทองแท้อย่างเป็นทางการว่าจะส่งคำให้การและเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรในวันและเวลาใด
 โดยในชั้นการแจ้งข้อกล่าวหาได้อนุญาตให้เวลาไปรวบรวมพยานหลักฐานภายใน 60วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 15 ธ.ค.นี้เบื้องต้นฝ่ายผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะขอขยายเวลายื่นเอกสารและคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยพนักงานสอบสวนซึ่งมีอัยการเป็นผู้ร่วมสอบจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจว่าเหตุผลที่ขอเลื่อนเพียงพอที่จะให้อนุญาตหรือไม่และจะอนุญาตให้ขยายเวลาออกไปอีกกี่วัน

ขณะที่แหล่งข่าวจากดีเอสไอเปิดเผยว่าเบื้องต้นได้รับการประสานอย่างไม่เป็นทางการจากทีมทนายความของนายพานทองแท้ว่าขณะนี้ยังรวบรวมหลักฐานไม่แล้วเสร็จ จะขอขยายเวลาออกไปอีกซึ่งพนักงานสอบสวนชี้แจงว่าปกติจะให้เวลาการรวบรวมเอกสารหลักฐานภายใน 30วัน แต่กรณีของนายพานทองแท้ได้ให้เหตุผลว่าคดีเกิดขึ้นและผ่านมานานหลายปีแล้วจำเป็นต้องใช้เวลาในการรวบรวมและค้นหาพยานหลักฐานย้อนหลังจึงได้ให้เวลาไปแล้วในครั้งแรกถึง 60 วันหากจะขอขยายเวลาอีกก็คงพิจารณาได้เต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์เพราะคดีจะครบกำหนดอายุความ 15 ปีในเดือนมิ.ย.61และไม่ว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนการสอบสวนไปในทิศทางใดก็ต้องมีระยะเวลาเพียงพอให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษได้พิจารณาและตรวจสอบหลักฐานในสำนวนด้วย

ทั้งนี้คดีดังกล่าวสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ได้มีหนังสือถึงดีเอสไอเพื่อส่งข้อมูลและแจ้งผลการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดกรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน)อนุมัติสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน)โดยมิชอบและขอให้ดีเอสไอตรวจสอบบุคคลที่รับโอนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินอันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคล4คน โดยเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในเรื่องนี้มีจำนวน 10 ล้านบาทและ จำนวน 26  ล้านบาท  ซึ่งดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่25/2560ต่อมาพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นชอบร่วมกันว่าคดีมีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลจำนวน4คน ได้แก่ 1 นางเกศินี จิปิภพ 2 นางกาญจนาภา หงษ์เหิน 3 นายวันชัย  หงส์เหิน และ 4 นายพานทองแท้  ชินวัตรในข้อหา“สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,ร่วมกันฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว”