posttoday

นายกฯ เร่งโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังให้เสร็จในปี61

08 ธันวาคม 2560

นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง เร่งให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2561 เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง เร่งให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2561 เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 08.45 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบด้วย พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ. วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงท่าอากาศยานตรังเพื่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัยและติดตามการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาน้ำท่วม พร้อมพบปะให้กำลังใจผู้ประสบภัยจังหวัดตรัง 

จากนั้น เวลา 09.20 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมายังบริเวณสะพานคลองช้าง ตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เพื่อรับฟังบรรยายสรุปโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังจากนายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายก่อสร้าง

รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายก่อสร้างบรรยายสรุปโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังว่า แม่น้ำตรังมีศักยภาพในการรับน้ำประมาณ 720 ลบ.ม./วินาที ในคราวเกิดอุทกภัยจะมีประมาณน้ำไหลผ่านสูงถึง 1,467 ลบ.ม./วินาที ทำให้มีน้ำส่วนเกินประมาณ 750 ลบ.ม./วินาที ทำให้น้ำล้นข้ามคันกั้นน้ำเข้าท่วมพื้นที่สร้างความเสียหายให้กับราษฎรเป็นจำนวนมาก กรมชลประทานจึงริเริ่มก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังขึ้นในปี 2559 โดยแล้วเสร็จภายในปี 2561 ลักษณะโครงการประกอบด้วยการก่อสร้างประตูระบายน้ำจำนวน 2 แห่ง และขุดคลองผันน้ำท้องคลองกว้าง 102 เมตร ยาว 7.55 กิโลเมตร เริ่มขุดจากบ้านหนองตรุด ตำบลหนองตรุดถึงตำบลบางรัก สามารถรองรับปริมาณน้ำส่วนเกินจำนวน 750 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ เมื่อก่อสร้างโครงการเสร็จแล้วจะสามารถบรรเทาอุทกภัยพื้นที่รวมประมาณ 10,525 ไร่ ได้แก่ พื้นที่ตำบลหนองตรุด ตำบลนาโต๊ะ หมิงและตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง และในช่วงที่ไม่มีอุทกภัย สามารถเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ประมาณ 3.20 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 10,000 ไร่ นอกจากนั้นยังช่วยเสริมการผลิตน้ำประปาเพื่อใช้อุปโภคบริโภคอีกจำนวน 1.74 ล้าน ลบ.ม.

ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การดำเนินโครงการอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก ในส่วนของโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังต้องสร้างความเข้าใจ ยึดหลักความร่วมมือเป็นหลัก ที่สำคัญจะต้องไม่มีผลกระทบสร้างความเดือดร้อนกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดำเนินโครงการ พร้อมกล่าวแสดงความเห็นใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ยืนยันรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระบบ แต่ขอให้เข้าใจว่าการทำงานบ้างครั้งมีอุปสรรคไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลกระทบ EIA รวมถึงการคัดค้านของประชาชนด้วย แต่ก็พร้อมจะหารือร่วมกันเพื่อให้สามารถดำเนินต่อไปได้ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังให้แล้วเสร็จตามแผนงานภายในปี พ.ศ.2561 เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อไป

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้สนทนาธรรมกับพระครูปัญญา วชิราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาเมืองเพชร โดยเจ้าอาวาสได้ฝากให้นายกรัฐมนตรีช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำตรังเขตอำเภอเมืองอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมมายาวนานกว่า 70 ปี จนเป็นความเคยชินของประชาชน ทั้งนี้ เจ้าอาวาสฯ ได้สร้างการรับรู้และช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ตามแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางต่อไปยังหอประชุมโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเพื่อพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดตรัง